ตรัง – ผู้ปกครองบางรายยังรู้สึกกังวลใจ ไม่อยากให้ลูกฉีดวัคซีน เพราะห่วงความไม่ปลอดภัย ขณะที่ผลการสำรวจนักเรียนในโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครตรัง พบว่า 98 เปอร์เซ็นต์ประสงค์ที่จะฉีดวัคซีน
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจะฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียน นักศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 โดยในส่วนของจังหวัดตรัง คณะกรรมการโรคติดต่อ ได้มีมติให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง รวบรวมรายชื่อนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่อยู่ในสถานศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ทั้งของรัฐและเอกชน รวมทั้งสังกัดอาชีวะศึกษา ครอบคลุมทั้งระดับ ปวช. และ ปวส. โรงเรียนพระปริยัติธรรม ศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา 4 โรงเรียนสอนศาสนา หรือโรงเรียนปอเนาะ รวมทั้งโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามควบคู่กับประเภทสามัญ ซึ่งพบว่ามีจำนวนรวมทั้งสิ้น 45,379 คน
ทั้งนี้ วัคซีนจะเดินทางถึงจังหวัดตรังประมาณต้นเดือนตุลาคม และจะเริ่มดำเนินการฉีดได้ในวันที่ 4 ตุลาคม แต่ผู้ปกครองจะต้องกรอกเอกสารแสดงความจำนงค์ขอรับวัคซีนก่อนวันที่ 25 กันยายนนี้ แล้วยื่นต่อสถานศึกษาเพื่อทำการฉีด จะฉีดเป็นรายสถานศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองบางรายที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครตรัง ได้ออกมาระบุว่า โดยรวมผู้ปกครองรู้สึกกังวลใจ ยังไม่อยากให้ลูกฉีดวัคซีน เพราะห่วงความไม่ปลอดภัย ไม่อยากให้ลูกลอง ไม่รู้ว่าฉีดแล้วจะเป็นอย่างไร ทำให้ทุกคนกังวลใจ โดยเฉพาะคนที่มีลูกเล็ก แต่ถ้าลูกโตไม่น่าห่วง เพราะมีภูมิต้านทานดีกว่า
ด้านนายชำนาญ เรืองมาก ผู้อำนวยการส่วนบริหารการศึกษา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ในส่วนของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครตรัง ซึ่งมีทั้งหมดรวม 8 โรง จากการการสำรวจนักเรียนที่อายุ 12-18 ปี ที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีน โดยอยู่ในกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย และนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แต่อายุครบ 12 ปี รวมกันทั้งหมด 1,989 คน พบว่ามีความประสงค์เพื่อขอรับการฉีดวัคซีน จำนวน 98% ส่วนกลุ่มที่เหลือไม่ประสงค์จะฉีด เนื่องจากบุตรหลานมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคพาร์กินสัน เป็นต้น ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกกังวล จึงไม่ประสงค์ที่จะให้ฉีด แต่ก็ได้ให้โรงเรียนเร่งทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง และนักเรียน เพราะการฉีดวัคซีนเท่านั้นที่จะทำให้สามารถเปิดเรียนในห้องเรียนได้







