เรื่องเตือนภัยจากจังหวัดตรัง ร้านขายของชำโดยแก๊งคนร้าย อ้างตัวเป็นเซลล์ขายสินค้า ใช้กลอุบาย ยัดสบู่ 20 แพค คิดราคาแพงเกินจริง 10 เท่า เสียหายเกือบ 2 หมื่นบาท
ร้านขายของชำ ชื่อร้านมังกรทอง อยู่ที่ ถนนพิกุลทอง ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่ง นายชาญวิทย์ ศรีจรรยา หรือกร อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน ผู้เสียหาย เล่าว่า ได้มี คนร้าย ชาย 1 คน อ้างเป็นเซลล์ขายสินค้าร้านของชำทั่วไป ลงจากรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบอร์นเงิน สภาพแต่งซิ่ง ใส่แครี่บอย ทราบเลขทะเบียนตอนหลัง บพ 5529 ชัยภูมิ มาเสนอขายสินค้าอุปโภค บริโภค ราคาถูกกว่าท้องตลาด ก็เลยตกลงว่าจะซื้อสินค้าบางรายการ เขาก็แจ้งว่า ไม่ได้ เปิดบิลครั้งแรกต้องเอาตามรายการที่เขาลิสต์มาเท่านั้น ให้รับไว้ก่อน
ชายเมายาคลั่งไล่ฟันหมา ทวงเมียในกุฎิพระ
แหกด่าน! ชูนิ้วให้ของลับตร. รถเสียหลักชนคนงานดับ 3 ราย เจ็บสาหัสอีก 1 คน
ตอนหลังเอาสินค้ามาแลกกับตัวอื่นได้ จึงตกลง แล้วก็สั่งซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ซึ่งเขาบอกว่าวันนี้ไม่ได้นำมา จะเอามาให้วันถัดไป คำนวณราคาทั้งหมด 27,636 บาท จึงตกลงซื้อขาย
จากนั้นชายอีก 2 คน ยกของลงมาจากรถ แล้วก็ให้ทางร้านตรวจเช็คสินค้า โดยธรรมชาติของการเช็กสินค้าจำนวนมาก เราจะอ่านแค่ชื่อรายการสินค้า กับจำนวนแพ็ค โดยไม่ได้ดูราคา จากนั้นจะจ่ายตังค์ด้วยการโอน แต่เขาก็บอกว่า ไม่ได้ ต้องจ่ายเงินสดเท่านั้น จึงให้เงินสดไป จากนั้นก็ขับรถออกไปทันที
เจ้าของร้านมังกรทอง รู้สึกผิดสังเกต จ่ายไป 2 หมื่นกว่า ทำไมได้ของน้อย เลยมาตรวจสอบสินค้าอีกครั้ง ก็พบว่า บิลใบเสร็จ ไม่มีชื่อ บริษัท ไม่มีสำเนา โทรกลับไปก็ติดต่อไม่ได้ แล้วก็พบว่า มีรายการที่ผิดปกติคือ สบู่
สินค้าที่ถูกยัดเข้ารายการสั่งซื้อ สบู่ นี้เขาขาย แพคละ 998 บาท ให้มา 20 แพค เป็นเงิน 19,960 บาท จึงไปเช็คราคา ปกติสบู่แบบนี้ราคาแพคละ 90 บาทเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าไม่เข้าทีแล้ว ตนจึงไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำไว้ไว้กับ ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว /ร้อยเวรก็บอกให้ตนไปหาหลักฐานมาก่อน ตนก็กลับมาที่ร้าน มาดูกล้องวงจรปิดจากนั้นก็ไปขอดูกล้องวงจรปิดของ เทศบาลตำบลย่านตาขาว ก็พบว่า คนร้ายเดินทางมาจากอำเภอเมืองตรัง เจาะจงขับมาที่ร้านตนโดยเฉพาะ แต่ทุกกล้องไม่เห็นป้ายทะเบียน จากนั้นเจ้าของร้านมาดูสินค้าอีกทีหนึ่ง คิดว่าซื้อมาจากห้างขายส่งแห่งหนึ่ง
ตนก็เดินทางไปห้างแห่งนี้อีก จะไปขอดูวงจรปิด แต่ทางห้างบอกว่า ต้องทำเรื่องไปส่วนกลางก่อน ระหว่างนั้น รถกระบะผู้ก่อเหตุเข้ามาที่ห้างแห่งนี้พอดี จึงออกไปซุ่มดู แล้วไปถ่ายรูปรถและทะเบียนมาให้ตำรวจเข้าตรวจสอบ แต่ตำรวจก็ไม่มา ตอบมาว่าไม่มีชื่อ ออกหมายจับไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้
ตนจึงนั่งเฝ้ารถร่วมกับ รปภ. ประมาณครึ่งชั่วโมง เขาเดินออกมา ก็เลยตัดสินใจขับรถไปขวางหน้ารถคนร้าย คนร้ายก็เดินลงมา และตนก็ชี้หน้าด่าว่าเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งจำตนได้ เข้ามาเจรจาบอกว่าจะคืนเงินให้กลับอย่างเดียว แต่ตนบอกว่าเดี๋ยวก็ไปทำกับคนอื่นอีก จังหวะนั้นตนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราอยู่คนเดียว ความปลอดภัยไม่มี ตำรวจก็ไม่มา ตนก็จำเป็นต้องยอมรับเงินคืน โดยที่นำเงินสดมาให้ตน 28,000 บาท โดยที่ในกระเป๋าเขามีเงินสดเยอะมาก ซึ่งเงินที่คืนมากกว่าราคาสินค้าที่ตนได้รับ และเขาก็ไม่ขอของคืนกลับ ก่อนจะรีบขับหนีไปทันที โดยใช้เวลาคุยอยู่ประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะมีคนแจ้งว่ามีคนทะเลาะวิวาทกัน และมีตำรวจสายตรวจมาตอนที่สายไปแล้ว
สุดท้ายอยากฝากเตือนร้านค้าอื่นๆให้ระวังแก๊งนี้ ซึ่งน่าจะไปก่อเหตุอีก ที่นำสินค้าราคาถูกมาเป็นตัวล่อตาล่อใจให้ซื้อ จนลืมดูราคาสบู่ที่แอบแฝงมาในราคาที่เกินจริง ซึ่งอย่าไปหลงเชื่อกลลวงว่าสินค้าราคาถูกจะมีอยู่จริง พึงสันนิษฐานไว้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพ เชื่อว่าทำเป็นขบวนการ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ร้านค้าในพื้นที่ อ.ย่านตาขาว และใน ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง จำนวนหลายร้าน ได้ถูกแก๊งคนร้ายรายนี้ก่อเหตุใช้กลลวงฉ้อโกงเสียหายเป็นจำนวนมากเช่นกัน
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline







