ภูมิภาค
หัวใจยิ่งใหญ่! สองผัวเมียดูแลตาวัย 86 ปี ป่วยติดเตียง
วันพฤหัสบดี ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2564, 16.54 น.
คลิกที่นี่
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายสุนันท์ ชุมเชื้อ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) ว่ามีสองสามีภรรยา คือนายหมาด ปราบปราม หรือบังหมาด อายุ 68 ปี และภรรยาคือ น.ส.นิภา ลิขาล หรือหว่าภา อายุ 57 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของร้านอาหารมุสลิม ริมถนนพาดรถไฟเลขที่ ผู้ดูแลนายแผน นิลบรรพต หรือตาแผน อายุ 86 ปี ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่มีผู้ดูแล เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางลงไปตรวจสอบ ได้พบกับสองสามีภรรยา กำลังอยู่ในระหว่างการดูแล นายแผน พร้อมทั้งป้อนข้าว ป้อนน้ำ คอยให้รับประทานยาประจำตัว และคอยเช็ดตัว เช็ดอุจจาระ ปัสสาวะ พร้อมเปลี่ยนแพมเพิส เสมือนเป็นญาติของตัวเอง ทำให้ผู้คนที่พบเห็นหรือรับทราบเรื่องราวเกี่ยวกับสองสามีภรรยารายนี้ที่ดูแลตาแผน ต่างรู้สึกยอมรับและนับถือในความมีน้ำใจ และหดหู่ใจไปในขณะเดียวกัน
น.ส.นิภา เล่าว่า ตาแผน เดิมที เป็นคน จ.ชัยภูมิ แต่ได้ย้ายมาอยู่ที่ จ.ตรัง ตนรู้จักกันมานานเป็นหลาย 10 ปีแล้ว ก็ให้กินข้าวกินน้ำอยู่ตลอด เพราะตนเองเปิดร้านอาหาร ในอดีตเป็นนักการภารโรงโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองตรัง และหลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนมาทำอาชีพขับรถขายไอศกรีม แต่ก็ได้หยุดไปเพราะเริ่มล้มป่วย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาได้อาศัยอยู่กับเพื่อน ในบ้านพักเขตเทศบาลนครตรัง แต่หลังจากที่เพื่อนได้เสียชีวิตลุงก็ไร้ที่พักอาศัย ตนก็ได้ให้มาพักอยู่กับตน จนกระทั่งเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา เกิดล้มป่วยหลายโรคด้วยกัน ทั้งต่อมลูกหมากโต กระดูกหลังงอ ฯลฯ จนเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ตาแผนมีลูก 1 คน แต่ได้เสียชีวิตลงไปก่อนหน้า ส่วนญาติพี่น้องทั้งหมดก็อยู่ที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งหลังจากตาแผนล้มป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ตนก็ได้ติดต่อไปยังบรรดาญาติๆของตาแผน แต่กลับได้รับคำตอบมาว่า “ไม่เอาแล้ว ไม่ลงมารับไปแล้ว” ตนเองก็รู้สึกหดหู่ใจเหมือนกันที่ได้ยินคำตอบแบบนั้นจากลูกๆหลานๆและญาติพี่น้อง ตนเองยอมรับว่าไม่ได้มีศักดิ์เป็นอะไรกัน แต่ดูแลทุกอย่างแม้กระทั้งเช็ดล้างอุจาระ ปัสสาวะ แต่มันก็ต้องทำ เพราะสงสารแก
น.ส.นิภา เล่าต่อว่า ที่ผ่านมาก็มี อสม.ในพื้นที่เข้ามาดูแลอยู่บ้าง หน่วยงานรัฐต่างๆก็เข้ามาเยี่ยม แต่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ส่วนเงินที่แกได้รับจากสวัสดิการของรัฐก็มีเงินผู้พิการ เงินผู้สูงอายุ แต่ไม่สามารถไปเบิกถอนได้ เนื่องจากต้องนำแกไปเบิกเอง แต่เนื่องตัวเป็นผู้ป่วยติดเตียงก็ไม่สะดวก ส่วนจะให้ตนดูแลไปเบิกถอนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลก็ไม่สามารถทำได้ ธนาคารแจ้งว่าเพราะตนเองไม่ได้เป็นญาติพี่น้องหรือทายาทกับตาแผน
“ตนก็คิดว่าจะดูแลตาแผนไปจนกว่าจะล้มตายกันลงไป เพราะดูแลมาถึงขนาดนี้แล้ว อีกทั้งเป็นผู้ป่วยติดเตียงแบบนี้ ใครจะเอาไปดูแล แม้กระทั้งญาติๆก็ยังไม่เอาไปดูแลเลย ตอนที่ลุงแผนยังมีชีวิตปกติเป็นคนนิสัยดีมาก เป็นคนใจดี ขายไอศกรีมก็จะชอบแจกพวกเด็กๆอยู่เสมอ” น.ส.นิภา กล่าวปิดท้าย
ด้านนายสุนันท์ กล่าวว่า ตนเองก็ทราบเรื่องราวดังกล่าวมาจากหลังจากที่มีการประสานให้ทางมูลนิธิออกรับผู้ป่วยติดเตียง ส่ง รพ.ตรัง และมีการพูดคุยกัน ตอนแรกคิดว่าสองสามีภรรยาที่ดูแลเป็นญาติกับตาแผน แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ได้นำมาดูแล เพราะถูกทิ้งจากญาติพี่น้อง ก็รู้สึกสงสารนับถือหัวใจของสองสามีภรรยา ก็เลยประสานมาทางผู้สื่อข่าวให้เข้ามาเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว ซึ่งตนเองก็ได้ดูแลในเรื่องของการรับส่งนำตัวไปพบแพทย์หรือรับยาตามนัดของแพทย์ ก็อยากให้ทางผู้ใจบุญหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบและดูแล เพราะการดูแลในขณะนี้ทั้งหมดเป็นเงินส่วนตัวของสองสามีภรรยาดังกล่าว
ขณะที่นายหมาด หรือบังหมาด (กล่าวว่า สาเหตุที่ตนได้รับตาแผนมาดูแลเพราะเห็นว่าเป็นมนุษย์เหมือน แม้จะต่างศาสนากันก็ตาม ก็ต้องช่วยเหลือกันต่อไปตราบที่แกจะไม่มีคนช่วยเหลือ แต่ถ้ามีลูกหลานกลับมาดูแลเราก็หยุด แต่ถ้าไม่มีใครก็จะดูแลต่อไปอย่างนี้ ตนเองป้อนข้าวป้อนน้ำให้ทุกเวลา และยืนยันว่าจะดูแลจนกว่าแกจะหมดลมหายใจ ตนเองช่วยเหลือทุกอย่างไม่เคยรู้สึกรังเกียจ ตนมองว่ามันไม่ได้ถือว่าเป็นภาระ เพราะทุกคนเกิดมาต้องมีภาระกันทั้งหมด บางครั้งก็คิดว่าเป็นความสุขที่ได้ดูแลแก และตนเคยทราบข่าวมาว่าตาแผนเคยมีความตั้งใจจะมอบร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่ด้วยเช่นกัน แต่เมื่อมีโรคประจำตัวก็ไม่สามารถกระทำได้
หากมีผู้ใจบุญ หรือญาติพี่น้อง รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ อยากดำเนินการเข้าช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อประสานได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-396-8816 น.ส.นิภา ลิขาล หรือหว่าภา (ผู้ดูแล)
คลิกที่นี่