26 กุมภาพันธ์ 2564 ได้รับแจ้งข่าวสุดรันทดจากชาวบ้านว่า มีครอบครัวหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 7 บ้านบ่อน้ำร้อน ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง อยู่กันในกระต๊อบผุพัง ขนาด 9 X 5 เมตร ภายในสวนปาล์มน้ำมัน ไม่มีโฉนด ไร้สภาพความเป็นที่อยู่อาศัย ไม่มีไฟฟ้า หรือน้ำใช้ รวมทั้งไม่มีห้องส้วมไว้สำหรับขับถ่าย สร้างความหดหู่ใจและสงสารให้กับบุคคลที่พบเห็นและทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่อย่างมาก ทั้งนี้ ครอบครัวดังกล่าว 7 ชีวิต ประกอบไปด้วย นายไพโรจน์ ด้วงทอง หรือ ขวิด อายุ 37 ปี อาชีพจับกังเรือประมง บ้านเลขที่ 142 หมู่ 7 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง และ นางไสว อินตา หรือ พร อายุ 38 ปี ชาวไทยใหญ่ อาชีพรับจ้างทั่วไป สองสามีภรรยา พร้อมด้วยบรรดาลูกๆ อีก 5 ชีวิต เพศหญิง อายุ 13 ปี , เพศหญิง อายุ 12 ปี , เพศชาย อายุ 10 ปี , เพศชาย อายุ 9 ปี และ เพศชาย อายุ 3 ขวบ
อ่านข่าว – (คลิป) วงจรปิดจับภาพอุบัติเหตุสลด บรรทุก 6 ล้อ เบียด จยย. เสียหลักล้ม ทับร่างดับคาที่
นางไสว เล่าเรื่องราวสุดรันทดทั้งน้ำตาว่า ตนเองเป็นชาวไทยใหญ่ อาศัยอยู่กับครอบครัวที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนจะออกจากบ้านมาอยู่กินกับสามีชาวไทย โดยอยู่กินกันมากว่า 20 ปี ทำงานและอาศัยอยู่ที่ จ.พัทลุง บ้านพ่อของสามี ซึ่งตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร์ มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน สามารถใช้สิทธิได้เหมือนกับคนไทยทั่วไป จากนั้นได้ย้ายมาอยู่ที่กระต๊อบหลังนี้ ก่อนทราบว่าทางบ้านที่ จ.เชียงใหม่ ได้ไปแจ้งว่าตนเองเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากตนเองไม่เคยได้ติดต่อกับทางบ้านเลย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ทำให้ทุกวันนี้กลายเป็นคนเถื่อน จะกลับไปยืนยันตัวที่บ้านเกิดก็ไม่มีเงินเดินทาง จะติดต่อกับทางบ้านก็ติดต่อไม่ได้ ต้องอยู่แบบนี้ไปวันๆ
“ตนเองและสามีไม่เคยได้รับสวัสดิการใดๆ จากภาครัฐ หรือเงินช่วยเหลือ เงินอุดหนุน และสิ่งของใดๆ จากหน่วยงานต่างๆ มาก่อนเลย ครอบครัวไม่มีโทรศัพท์มือถือ” นางไสว กล่าวและว่า แต่ทั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้เข้ามาช่วยเหลือซ่อมแซมบ้าน เป็นที่ปรึกษา และหยิบยื่นอะไรให้เสมอ ส่วนคณะครูที่โรงเรียนบ้านท่าส้ม ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่ลูกเรียนอยู่ ก็สนับสนุนช่วยเหลือลูกของตนเองทุกคนเท่าที่จะทำได้ เคยมีอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ลงมาสำรวจแล้ว แต่ก็หายเงียบไป
CR : ภาพ / ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดตรัง
