ตรัง – ชาวบ้านป่ายาง ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สุดทนติดป้ายประกาศ พร้อมออกกฎคาดโทษ “คนขี้ลัก” หรือ “หัวขโมย” ที่แอบย่องมาเก็บผลผลิตทางการเกษตร เผยหากจับได้จะต้องจ่ายค่าปรับให้หมู่บ้านด้วย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบป้ายประกาศคาดโทษคนขี้ลัก (ภาษาถิ่นใต้ แปลว่า คนขี้ขโมย) ที่ชาวบ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน นำโดย นายอุทัย คีรีเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านป่ายาง ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นำมาปิดประกาศไว้ริมถนนเส้นทางผ่านภายในหมู่บ้าน โดยเป็นป้ายไวนิล มีขนาดความกว้างคูณยาว 60-80 เซนติเมตร ซึ่งชาวบ้านติดไว้เพื่อคาดโทษหัวขโมยที่ลักลอบเข้ามาลักทรัพย์ โดยเฉพาะพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน และเชื่อว่าจะต้องเป็นฝีมือคนที่หาเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ โดยได้กำหนดอัตราโทษเอาไว้ด้วย หากจับหัวขโมยได้คือ “ค่าของโจร…. ปรับ ลักกล้วย 500 ลักหมาก 500 ลักปาล์ม 1,000 ลักมะพร้าว 500 และอื่นๆ 500 ….. จับได้..พี่น้องก็ไม่เว้น เสียค่าปรับทุกคน….”
นายอุทัย คีรีเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านป่ายาง ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด เล่าถึงที่มาของกฎหมู่บ้านว่า เนื่องจากในพื้นที่มีคนจากนอกหมู่บ้านเข้ามาลักเล็กขโมยน้อยกันมาก โดยเฉพาะการลักขโมยพืชผลทางการเกษตรที่ขณะนี้มีผลผลิตออกเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ชาวบ้านในพื้นที่ปลูกเอาไว้กิน เอาไว้ขาย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงหารือกันกับชาวบ้าน และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านว่าควรจะดำเนินการป้องกันอย่างไรดี จึงเป็นที่มาของการออกกฎของหมู่บ้านเพื่อคาดโทษคนขี้ลักดังกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของผลผลิตปาล์มน้ำมันจะตั้งค่าปรับเอาไว้แพงที่สุด เนื่องจากขณะนี้ปาล์มน้ำมันมีราคาสูงมากที่สุดในรอบหลายสิบปี คือมีราคากิโลกรัมละกว่า 11 บาทแล้ว ทำให้มีคนภายนอกเข้ามาลักขโมยของชาวบ้านบ่อยมาก แม้แต่กลางวันเมื่อเจ้าของสวนเผลอ จึงตั้งค่าปรับเอาไว้สูงที่สุดหากจับคนร้ายได้ ส่วนหมากขณะนี้ออกผลผลิตสุกเต็มต้น และชาวบ้านกำลังเริ่มเก็บผลมาผ่าส่งขาย ถึงแม้ต้นหมากจะมีความสูงมาก แต่โจรก็ยังพยายามใช้วิธีสอยลงมาทั้งทะลาย เช่นเดียวกับในส่วนของมะพร้าวมีราคาดีเช่นกันจึงถูกลักขโมยด้วย ทั้งนี้ นอกจากจะส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีแล้ว ผู้ที่ถูกจับจะต้องจ่ายค่าปรับให้หมู่บ้านด้วย แม้จะเป็นญาติพี่น้องกันก็ไม่เว้น เพื่อความสงบสุขของหมู่บ้าน โดยเงินที่ได้จะเอาเข้ากองทุนพัฒนากลางของหมู่บ้านเพื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ด้านชาวบ้านหมู่ 8 บ้านป่ายาง ต.หนองช้างแล่น บอกว่า ดีใจที่มีการตั้งกฎขึ้นมา เพราะมีคนจากข้างนอกหมู่บ้านเข้ามาลักขโมยบ่อยมาก โดยหมากนั้นจะย่องเข้ามาขโมยในตอนกลางคืน หากต้นไม่สูงจะใช้วิธีปีน โดยใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องขึ้นไปเก็บลงมา หากต้นสูงใช้ไม้สอย โดยเอาไปทั้งทะลาย ไม่ได้มาเก็บตามโคนต้นทีละลูกสองลูกเหมือนเจ้าของสวน ส่วนปาล์มเข้ามาลักขโมยบ่อยมาก เป็นทะลายๆ ครั้งละไม่มาก แต่บ่อย แม้เจ้าของสวนจะเข้าไปพบพยายามยกเก็บหรือพิงไว้ พอเผลอเดินไปสำรวจบริเวณอื่น กลับมาดูพบว่าผลปาล์มหายไปแล้ว โดยไม่ทราบว่าหัวขโมยหลบอยู่ตรงไหน