
‘สาทิตย์’ ชี้พรรคร่วมร้าวแน่หาก ‘บิ๊กตู่’ ไม่ปรับ ครม.และแก้ปัญหาประกันราคายาง
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่จังหวัดตรังว่า จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรับ ครม. นั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า ความจริงคนในพรรคพูดกันมาเยอะแล้ว แต่สำหรับความเห็นของตนคิดว่าจริงๆ แล้วในพรรคพลังประชารัฐก็มีรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งไปก่อนหน้าไป 2 ตำแหน่งก็ยังไม่ได้ปรับ ตนเห็นว่าการปรับ ครม. เป็นดุลพินิจของผู้ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลก็อยู่ที่ท่านนายกฯ ก็คงต้องดูต่อไปว่าท่านจะทำอย่างไรต่อไป
แต่ตนคิดว่าเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์กังวลเป็นเรื่องใหญ่กว่าเรื่องปรับ ครม. คือ ราคายางพารา อยากจะพูดเรื่องนี้เพราะราคายางพาราตกต่ำมาระยะหนึ่งแล้ว แล้วในภาคใต้ฝนตกเยอะมาก คนก็เดือดร้อน เพราะฉะนั้นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องไปยังนายกฯก็คือ เงินประกันรายได้ยางพาราระยะที่ 4 ซึ่งเงินประกันรายได้ยางพาราครั้งที่ 4 กระทรวงเกษตรทำเรื่องเสนอไปคณะนโยบายยางธรรมชาติแล้ว แต่รอบแรกมีการเลื่อนการประชุมออกไป สืบทราบมาว่ารัฐบาลอาจจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณ
เพราะฉะนั้นตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นความเป็นความตายความทุกข์ยากของเกษตรกรชาวสวนยาง ไม่เฉพาะแค่ภาคใต้แต่เป็นทั่วประเทศ เงินประมาณ 16,000 ล้านมันต้องเร่งออกมาจ่ายเงินประกันรายได้ครั้งที่ 4 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางโดยเร็วที่สุด และเรื่องนี้หากมีการดึงเรื่องออกไปอีก ทั้งๆ ที่ประกันรายได้ข้าวจ่ายได้ออกไปแล้ว แต่ทำไมประกันรายได้ยางพาราออกไม่ได้นี่เป็นคำถาม และเป็นความทุกข์ยากทุกข์ใจของ ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีสวนยางทุกคน
เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องนี้รัฐบาลยืดออกไปหรือไม่จ่ายตนมองว่าเรื่องนี้จะเกิดปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลได้ เรื่องนี้จะเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ เวลาข้าวท่านจ่ายก่อน ใครๆ ก็รู้ว่านโยบายประกันรายได้เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ที่มาร่วมรัฐบาล เป็นเงื่อนไขหนึ่งของการมาร่วมรัฐบาล ภาคใต้ทุกคนก็รู้ว่าเป็นฐานเสียงเดิมของพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด เป็นการชะลอเรื่องนี้ และยังไม่จ่ายออกไป อันนี้ตนมองว่าต้องระมัดระวังจะกลายเป็นประเด็นไม่สบายใจกันในพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้ ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนพูดเรื่องนี้กันเยอะมาก และเราก็รอว่าเมื่อไหร่รัฐบาลโดยท่านนายกฯจะตัดสินใจเงินประกันรายได้ระยะที่ 4 ให้กับชาวสวนยาง
ในการปรับวาระ ครม. ตนก็พูดไปแล้วเป็นอำนาจของท่าน แต่เรื่องใหญ่คือ เรื่องประกันรายได้ยางพารา ที่ตนมองว่าใหญ่กว่า ถ้าเรื่องนี้ดึงออกไปแล้วยุบสภาก่อน ตนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ ใหญ่กว่าการปรับ ครม. ตนมองว่าเงินประกันรายได้ยังไม่ออกยังยืดออกไปโดยไม่มีเหตุผลพอ ตนมองว่าเกิดรอยร้าวในพรรคร่วม เพราะทุกคนก็รู้ว่านโยบายประกันรายได้เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ชาวบ้านเดือดร้อนทำไมไม่จ่าย จะอ้างว่าไม่มีเงินเป็นไปไม่ได้ ซึ่งมันเป็นนโยบายรัฐบาลรับจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นนโยบายของรัฐบาลเองก็ต้องจ่าย แล้วคนที่เดือดร้อนปักษ์ใต้เดือดร้อนมาก 5-6 เดือนมานี้กรีดยางได้ไม่เกิน 4-5 วัน จะเอาอะไรกินถ้าไม่มีเงินประกันรายได้มาช่วย อันนี้ต้องเร่งจ่ายเลยช้าไม่ได้ เรื่องนี้ใหญ่กว่าเรียกร้องปรับ ครม.อีก ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จ่ายเงินประกันรายได้ระยะที่ 4 ได้แล้ว
สำหรับการเลือกตั้งรอบหน้าตนมองว่ายังไม่ชัด รวมไทยสร้างชาติถือว่าเป็นพรรคใหม่ อาจจะมีคนไปร่วมอยู่ด้วย มีข่าวว่าพลเอกประยุทธ์จะไปร่วมด้วย ก็ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้ประกาศเป็นทางการ ตนมองว่าฝุ่นมันยังตลบอยู่ ต้องรอให้ฝุ่นซาอีกหน่อยจะเห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้นกว่านี้ ในฐานะที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะว่าขึ้นอยู่กับว่า ที่พรรคทำไปอย่าให้เสียหาย ราคายางพาราถือว่าดิ่งมากก็เป็นปัญหาที่ต้องแก้ เงินประกันรายได้ระยะที่ 4 ก็ต้องจ่าย ราคาปาล์มที่ทรงตัวอยู่ในขณะนี้อย่าให้ลงมากกว่านี้ ให้ปรับขึ้นมากกว่านี้ นโยบายกับคนที่ไม่มีเอกสารสิทธิยังเดินอยู่ต่อ ตนมองว่าถ้าเราทำงานสำเร็จแล้วนโยบายเที่ยวหน้าเราดีตนมองว่าเราน่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมากขึ้น
ส่วนการประเมินพื้นที่ภาคใต้นั้น ตนไม่กล้าพูดเรื่องนี้เพราะมองว่ายังไม่มีอะไรชัดเจนหนึ่งก็มีพรรคอื่นมาแข่งขันด้วย ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์เองก็ยังมีข่าวเรื่องคนย้ายเข้าคนย้ายออกกันอยู่ก็ยังไม่จบไม่ลงตัว อยากจะบอกว่าแย่ลงกว่าเดิม และไม่กล้าพูดด้วยว่าดีกว่าเดิม แต่จะพูดว่าพรรคต้องแก้ปัญหาในฐานะรัฐบาลในฐานะพรรคก็ต้องสร้างกระบวนการพรรคให้แข็งแรงทำให้คนมีความเชื่อมั่นให้กับพรรคมากกว่าที่เป็นอยู่ต้องรีบทำ







