5 ก.ย.64 – นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นการฉีดวัคซีนโควิด -19 ในพื้นที่ เขตสุขภาพที่ 12 ซึ่ง ดูแลในเขตภาคใต้ตอนล่าง 7 จังหวัด ในจำนวนนี้เป็นจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวดถึง 4 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ สงขลา ว่า ต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีน ในกลุ่มเสี่ยง 608 ให้ได้ 70% ตามเป้าหมายที่วางไว้เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด- 19 และเพื่อให้การควบคุมโรค มีประสิทธิภาพมากที่สุด
นพ.สุเทพ กล่าวว่า โดยมีชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีน หรือเรียกว่า ศูนย์สู้ภัยโควิด- 19 ชุมชน ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลพื้นฐานในชุมชน มีบทบาทในการป้องกันควบคุมโรคโควิด- 19 แบบครบวงจร เฝ้าระวังบุคคลเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง คัดกรองกลุ่มเสี่ยงในชุมชนด้วย ATK โดยทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายตั้งแต่ระดับปฐมภูมิถึงตติยะภูมิ และใช้กลไก 3 หมอที่มีอยู่
นพ.สุเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับการฉีดวัคซีนในเขตสุขภาพที่ 12 ได้เพิ่มการเข้าถึงวัคซีนโควิด- 19 ให้มากที่สุด ด้วยการนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชาชนถึง รพ.สต. ส่วนผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่เดินทางลำบากจะมีบุคลากรการแพทย์ไปฉีดวัคซีนให้ถึงบ้าน มุ่งเป้าการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 608 โดยกระตุ้นให้แต่ละอำเภอฉีดให้ได้ตามเป้าหมาย ด้วยการมอบรางวัล และประกาศเกียรติคุณ ที่ฉีดวัคซีนได้ 70% เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นแรงผลักดันให้พื้นที่อื่นๆ เร่งรัดตามมา เมื่อแต่ละอำเภอสามารถดำเนินการสำเร็จจะทำให้ภาพรวมการฉีดวัคซีนของจังหวัด และเขตสุขภาพเกิดความครอบคลุม
นพ.สุเทพ กล่าวว่า ล่าสุดการฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นชัดเจน ข้อมูลถึงวันที่ 2 กันยายน 2564 เขตสุขภาพที่ 12 ได้ฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ไปแล้ว 523,372 คน คิดเป็น 48.79% ซึ่งผลดีการการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมคือ จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นที่ หรือหากมีประชาชนติดเชื้อโควิด -19 จะช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ มีอำเภอที่ได้รับรางวัลแล้วได้แก่ จ.สงขลา อ.นาหม่อม อ.นาทวี อ.เมืองสงขลา อ.ควนเนียง อ.หอยโข่ง อ.หาดใหญ่ อ.สิงหนคร อ.บางกล่ำ / จ.ยะลา อ.เบตง อ.เมืองยะลา / จ.ปัตตานี อ.ไม้แก่น อ.เมืองปัตตานี อ.โคกโพธิ์ / จ.นราธิวาส อ.เมืองนราธิวาส อ.สุคิริน อ.สุไหงโก-ลก / จ.ตรัง อ.เมืองตรัง/ จ.พัทลุง อ.เมืองพัทลุง อ.ตะโหมด อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว / จ.สตูล อ.มะนัง.