
พระชาวบ้านลุกฮือบุกศาลากลางตรัง เรียกร้องทวงสิทธิ์ขอให้ทางสภาอบต. พิจารณาเรื่องเปลี่ยนสำนักสงฆ์ เป็นวัด ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าไม้ หลังกรมป่าไม้เปิดโอกาสให้สร้างเป็นวัดได้ แต่ อบต.กลับยังตุกติก ชาวบ้านเกรงจะเสียสิทธิ์ หลังเฝ้ารอมานานกว่า 40 ปี
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 เมษายน 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดตรัง นายโชติทิวัตถ์ ตั่นเล่ง สมาชิก อบต.นาท่ามเหนือ นำชาวบ้าน พร้อมนิมนต์ ว่าที่ ดร.พระครูปลัดคณกร มหาญาโณ หรืออาจารย์จอม เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมวัดป่ามหาญาณ บ้านทุ่งปง ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง พร้อมคณะสงฆ์ และสามเณร สำนักสงฆ์ บ้านนางอ เดินทางร้องทุกข์ต่อนายภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง เป็นผู้รับเรื่องเบื้องต้น เพื่อเรียกร้องให้ทางสภา อบต.นาท่ามเหนือ ได้มีการจัดประชุม พิจารณาเรื่องการสร้างวัดในพื้นที่ป่าไม้ ตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ทาง อบต.นาท่ามเหนือ เป็นผู้ปกครองในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
สืบเนื่องจากสำนักสงฆ์บ้านนางอ และสำนักสงฆ์ป่ามหาญาณ บ้านทุ่งปง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ และในเบื้องต้นได้ยื่นหนังสือขอใช้พื้นที่ เพื่อสร้างเป็นวัด โดยผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรังเป็นผู้ยื่นขอ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ที่พักสงฆ์ฯ ดังกล่าว ยังขาดเอกสารเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา คือ รายงานการประชุมการพิจารณาให้ ความเห็นชอบจากสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากที่พักสงฆ์ดังกล่าว ตั้งอยู่ในเขตปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ อบต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ปกครองอยู่ จึงขอให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมสมาชิกสภาเทศบาลตำบล หรือสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล อย่างใด อย่างหนึ่ง เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบจากสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนจะส่งเอกสารทั้งหมดให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้พิจารณาเพื่อเปลี่ยนจากสำนักสงฆ์เป็นวัดได้
หลังมีการร้องเรียนทางเจ้าหน้าที่จึงมีการรวมตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผอ.สำนักพุทธศาสนา ศูนย์ป่าไม้เขตตรัง ตัวแทน อบต.นาท่ามเหนือ เพื่อ ปรึกษาหารือร่วมกันในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีนายวิศิษฐ์ อนันต์วรปัญญา ปลัดจังหวัดตรัง เป็นประธานร่วมประชุม
ด้านนายโชติทิวัตถ์ ตั่นเล่ง สมาชิก อบต.นาท่ามเหนือ กล่าวว่า เราได้มีการยื่นหนังสือเพื่อให้ทาง อบต.มีการประชุมวาระนี้มา แต่ปรากฏว่าทาง อบต. ยังไม่ได้มีการประชุมถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานก็ตาม โดยเอกสารอื่นๆเราพร้อมหมดแล้วขาดแต่วาระการประชุมในสภา อบต.นาท่ามเหนือ เท่านั้น หากปล่อยผ่านไปนานเราอาจจะเสียสิทธิ์ในการก่อตั้งสำนักสงฆ์ให้เป็นวัดได้ เพราะทางป่าไม้ให้เวลาในการยื่นเอกสารเร็วๆนี้เท่านั้น หลังจากที่ทางเรามีการร้องเรียนดังกล่าว ก็ต้องชื่นชมกับทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ได้ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือกัน หลังจากนี้เราจะมีการส่งเอกสารเพิ่มเติมให้กับทาง อบต. ตามที่ทาง อบต.ขอไว้ โดยที่เขารับปากว่าจะมีการจัดประชุมสมัยหน้าโดยจะมีวาระเรื่องนี้เข้าที่ประชุมตามที่เราได้ร้องขอไว้ หากเราได้รับเอกสารการประชุมแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางกรมป่าไม้ว่าจะสามารถเปลี่ยนสำนักสงฆ์ เป็นวัดได้หรือไม่ โดยสำนักสงฆ์ทั้งสองที่นั้นได้ก่อตั้งมาแล้ว 40ปี แต่ยังไม่มีโอกาสเปลี่ยนเป็นวัด
ขณะเดียวกัน นายวินัย แก้วกล่ำ ประธานสภา อบต.นาท่ามเหนือ ๆได้กล่าวชี้แจงในที่ประชุมว่า ตนเคยพบ เคยผ่านสำนักสงฆ์ดังกล่าวมาแล้ว เรื่องนี้เราต้องมีการประชาคมชาวบ้านเพราะเป็นความต้องการของชาวบ้าน มีเอกสารการขอใช้พื้นที่ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากอะไร เพราะมีอาณาเขตอยู่แล้ว ส่วนเรื่องขอเปิดประชุมสภาฯนั้น ทางนายอำเภอก็ไม่เคยติดขัด แต่ทางเราขอเอกสารเพิ่มเติมก่อน ตามที่ได้พูดคุย แต่หากไม่มีตนก็ต้องพูดคุยกับทางสมาชิกฯเพื่อให้เขาพิจารณาและเห็นชอบเรื่องดังกล่าว
ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่สำนักปฏิบัติธรรมวัดป่ามหาญาณ บ้านทุ่งปง เลขที่ 161 หมู่ที่ 5 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง พบชาวบ้านจำนวนกว่า 10 คน มานั่งรอฟังผลสรุปความคืบหน้าว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งภายในเขตพื้นที่สำนักปฏิบัติธรรมวัดป่ามหาญาณปัจจุบันนี่มีการพัฒนาให้เจริญขึ้น มีความร่มรื่น ซึ่งชาวบ้านในบริเวณนั้นและใกล้เคียงได้เดินทางมาทำบุญทุกวันพระและวันสำคัญทางศาสนาอย่างต่อเนื่อง
ว่าที่ ดร.พระครูปลัดคณกร มหาญาโณ หรืออาจารย์จอม เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมวัดป่ามหาญาณ กล่าวว่า สำนักสงฆ์หลายแห่งมาจากที่ดินที่ชาวบ้านมีจิตศรัทธาบริจาค บางพื้นที่เป็นของหลวง ที่ป่าไม้ หรือที่สาธารณะประโยชน์ประชาชนใช้ร่วมกัน ซึ่งสำนักปฏิบัติธรรมวัดป่ามหาญาณทางป่าไม้ได้อนุญาตแล้วเป็นวัดได้เป็นคราวไปครั้งละ 30 ปี ซึ่งทางสำนักพุทธได้ทำหนังสือขอใช้พื้นที่จากป่าไม้แล้ว ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจาก อบต.นาท่ามเหนือด้วย ซึ่งจังหวัดตรังสำนักสงฆ์ได้ส่งหนังสือผ่านกันหมดแล้วแต่ทางนาท่ามเหนือยังติดขัดอยู่ ขอเอกสารหลายอย่างทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่หลัก ทางสำนักพุทธทำหนังสือให้ขอเข้าวาระการประชุม ซึ่งในนาท่ามเหนือมี 2 สำนักสงฆ์ คือ สำนักปฏิบัติธรรมวัดป่ามหาญาณ บ้านทุ่งปง สำนักสงฆ์บ้านนางอ
ทางด้าน นางประดับ ผักคิ่น อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ที่ 5 ต.น่าท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง กล่าวว่า ตนเองและมีความศรัทธาในสำนักสงฆ์แห่งนี้ ทางสำนักสงฆ์มีการพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ ตนเองจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาดูแลยามที่ พระ สามเณรถูกนิมนต์ออกไปข้างนอก ในความคิดของตนและชาวบ้านต้องการให้ที่นี่มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นวัด ในส่วนที่เห็นต่างมีการคัดค้านก็มี หากสำนักสงฆ์ได้ยกระดับเป็นวัดชาวบ้านก็ภูมิใจ
ขณะที่นางปรีดา ศรีสำราญ อายุ 52ปี อยู่บ้านเลขที่ 209/1 หมู่ที่ 5 ต.น่าท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรังกล่าวว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันให้สำนักสงฆ์แห่งนี้ยกระดับเป็นวัด เพราะที่นี่ไปมาสะดวก กับชาวบ้านหลายๆคน ซึ่งในช่วงวันสำคัญทางศาสนา วันพระ มีชาวบ้านเดินทางมาทำบุญกันมาก สำหรับพวกตนมีความศรัทธาตรงนี้มาแล้วสบายใจ และมีการพัฒนาขึ้นดีมาก







