เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ตรัง – พบรถ จยย.สายตรวจกว่า 30 คัน ถูกจอดทิ้งไว้ในโรงพักเมืองตรัง จนบางคันฝุ่นจับ หญ้าขึ้นรก ด้าน ผกก.แจงเป็นรถที่เหลือจากการเบิกใช้ แต่ยังดูแลรักษาอย่างดี พร้อมตรวจสอบการเบิกใช้ค่าน้ำมันอย่างถูกต้อง
เพจ “ชมรมตรังต้านโกง” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความที่เห็นสภาพของรถจักรยานยนต์สายตรวจในราชการตำรวจ ถูกจอดทิ้งร้างไร้การดูแลซ่อมแซม ภายในสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองตรัง โดยระบุว่า “เครือข่ายชมรมตรังต้านโกง พบรถจักรยานยนต์สายตรวจ รุ่น CBR 300 ของ สภ.เมืองตรัง จอดทิ้งไว้ไม่ได้นำมาใช้งานหลังโรงพัก จำนวน 35 คัน #ไม่ยอม #ไม่ทน #ไม่เฉย” ทั้งนี้ พบจักรยานยนต์ดังกล่าวถูกจอดเรียงกันเอาไว้ด้านหลังอาคารกองสืบสวนสอบสวน โดยมีสภาพเก่าไม่ได้ใช้งาน มีฝุ่นจับเกรอะกรัง บางส่วนมีหญ้าขึ้น ในเบื้องต้นมองด้วยตาเปล่าไม่พบความเสียหายของชิ้นส่วนหรืออะไหล่ โดยรถจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นยี่ห้อฮอนด้า CBR 300 ทะเบียนตราโล่ทั้งหมด
ทั้งนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กมากดไลก์โพสต์ดังกล่าวนับพันคน มีการแชร์หลายร้อยแชร์ และคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ที่น่าสนใจ เช่น “รุ่นใหม่ออกมา ใครมันจะขับรุ่นเก่า” “ช่วยตรวจสอบงบน้ำมัน งบซ่อมบำรุงด้วยนะครับ มีด้วยเหรองบนี้?? งั้นรีบเลย เพราะอยู่มาไม่เคยได้สักบาทค่าซ่อม” “ถ้าไม่ใช้แล้วก็เอารถออกไปประมูลแล้วนำเงินที่ประมูลได้ไปให้ทุนการศึกษาแก่เด็กยากจน หรือพิการ มันจะได้เกิดประโยชน์” “เบิกไปน้ำมันก็เติมตังตัวเอง รถพังยาวรั่วก็จ่ายเอง ดอกยางหมดเส้นละ 2,500 โซ่พังสเตอร์ไหม้จ่ายเองเป็นพัน ถ่ายน้ำมันเครื่องก็เกือบ 500 ทั้งที่ตั้งตัวเองซ่อมเติมน้ำมันเอง พอจะใช้ก็จะมี ปปช.บอกเอารถมาใช้นอกเวลาราชการ เอางบหลวงมาใช้ ทั้งที่เบิกมาแต่รถสภาพพังๆ ซ่อมเอง เติมน้ำมันเอง แต่ดันเอามาใช้ไม่ได้” “ปีนี้งบน้ำมัน ตร.ถูกตัดทั่วประเทศ 1,500,000,000 บาท ค่าซ่อมบำรุงก็ไม่มี ก็ดูๆ เอา ไม่มีน้ำมันเติม..เลยไม่มีใครเบิก..ผมก็ไม่เบิก ปล่อยให้พังไป ขับเอาไปซื้อแกงก็โดนด่า” เป็นต้น
ต่อมา พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาว์ดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์สายตรวจดังกล่าว พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า กรณีดังกล่าวเป็นรถที่เหลือจากการเบิกใช้ของสายตรวจ ซึ่งต้องนำไปจอดเก็บไว้ในโรงรถที่อยู่ด้านข้าง สภ.เมืองตรัง โดยมีหลังคาอย่างดี และติดกล้องวงจรปิด มีการคล้องโซ่ล็อกล้อไว้อย่างดี และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการเบิกใช้สามารถทำเรื่องเสนอมาเพื่อเบิกใช้ตามระเบียบ ไม่ได้ถือว่าเป็นรถปลดระวาง แต่การจอดไว้นานก็มีฝุ่นจับบ้าง ทั้งนี้ เป็นรถที่เคยใช้ในการปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองตรัง โดยได้รับจัดสรรล็อตแรก เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 จำนวน 37 คัน และรับจัดสรรล็อตที่ 2 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 จำนวน 38 คัน รวม 75 คัน
“ยืนยันว่า สภ.เมืองตรัง ได้เก็บรถจักรยานยนต์ดังกล่าว โดยจัดสถานที่ที่เหมาะสมตามสภาพพื้นที่ และจากทั้งหมด 75 คัน เบิกจ่ายไป 44 คัน ไม่เบิกใช้งาน 31 คัน เป็นรถ CBR 300 รุ่นเก่าทั้งหมด โดยเก็บรักษาไว้ในสถานที่ดังกล่าว 25 คัน และเก็บไว้บริเวณหน้าอาคารพิทักษ์ราษฎร์อีก 6 คัน รวมทั้งได้มีการตรวจสอบบัญชีการใช้รถตามวงรอบทุกเดือน ส่วนการเบิกจ่ายน้ำมัน เบิกจ่ายเฉพาะรถที่มีตำรวจปฏิบัติหน้าที่แต่ละชุดปฏิบัติการ และเป็นรถที่พร้อมใช้งาน รถที่ไม่มีการเบิกใช้ ไม่ได้เบิกจ่ายน้ำมันแต่อย่างใด” ผกก.สภ.เมืองตรัง ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจักรยานยนต์สายตรวจรุ่นดังกล่าว ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2557 คสช.ได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 1.73 พันล้านบาทเศษ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ จำนวน 14,442 คัน โดย คสช.ได้เห็นชอบตามที่ สตช.โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เป็นผู้นำเสนอให้ สตช.ดำเนินการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ (ทดแทน) ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ 300 อาร์ (CBR 300R) ขนาด 250 ซีซี (งานสายตรวจ) จำนวน 14,442 คัน วงเงิน 1.7 พันล้านบาท
โดยแบ่งเป็นงบประมาณผูกพันข้ามปี 2557-2559 เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ คสช.ในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ซึ่งคณะกรรมการประกวดราคาได้ตรวจสอบการมีศูนย์บริการมาตรฐาน และศูนย์บริการย่อยของบริษัทแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับข้อพิจารณาของสำนักงาน ป.ป.ช.จากการจัดซื้อในครั้งก่อน (มอเตอร์ไซค์ไทเกอร์) มาเป็นบทเรียนในการตรวจสอบ คือต้องมีศูนย์ไม่น้อยกว่า 25 จังหวัด หรือครอบคลุมทั่วประเทศ และมีการแจ้งไปยังกองบัญชาการตรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคณะกรรมการได้ทำการสุ่มตรวจศูนย์บริการแล้ว ปรากฏว่ามีความครอบคลุมถูกต้อง