ป.ป.ช.ภาค 9 สร้างวิทยากรตัวคูณ ปลูกฝังวิธีคิด แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม สร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ร่วมใจต้านโกง
พฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2564 เวลา 13.52 น.
ที่โรงแรมเรือรัษฎา ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 9 เป็นประธานในพีเปิดอบรมการสร้างวิทยากรตัวคูณในการปลูกฝังวิธีคิด แยกแยะ ผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม (สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9) ทั้งนี้ สืบเนืองจากคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายไว้คือ 1.ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต 2.คดีทุจริตและประพฤติมิชอบลดลง 3.การดำเนินคดีทุจริตมีความรวดเร็ว เป็นธรรม โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ
โดยเป้าหมายที่ 1 ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต มีหนึ่งตัวชี้วัดคือ เด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 50 ส่งผลให้ในปี 2561 สำนักงาน ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำหลักสูตร หรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต เพื่อดำเนินการสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ประกอบด้วย 5 หลักสูตร คือ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รายวิชาเพิ่มเติมการป้องกันการทุจริต) 2.หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด youngster with good heart) 3.หลักสูตรตามแนวทางรับราชการ กลุ่มทหารและตำรวจ 4.หลักสูตรสร้างวิทยากรผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต และ 5.หลักสูตรโค้ชเพื่อการรู้คิดต้านทุจริต
สำหรับหลักสูตรทั้งหมด คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาดำเนินการเป็นรายวิชาเพิ่มเติมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยประสานงานกับสำนักงาน ป.ป.ช.อย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามกำหนดพร้อมรายงานผลสัมฤทธิ์ให้คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษาทราบเป็นระยะ ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต และการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัว และผลประโยชน์ส่วนรวม รวมทั้งเพื่อสร้างวิทยากรตัวคูณเป็นแกนนำการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต โดยขยายผลการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวมในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตลอดจนเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือเกี่ยวกับการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตและการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม โดยจัดการอบรมระหว่างวันที่ 4-5 มีนาคม 2564 มีผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 173 คน.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%