ตรัง – นายกสมาคมชาวสวนปาล์ม จ.ตรัง ระบุถึงสาเหตุที่ราคาปาล์มร่วงหนักกว่า 2 บาทในเวลาไม่กี่วัน เกิดจากเกษตรกรที่รีบตัดทั้งแก่อ่อนเพื่อขายเอาเงิน ขณะที่โรงงานก็แย่งซื้อโดยไม่สนใจคุณภาพ
วันนี้ (3 มี.ค.) จากกรณีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาระบุว่า ขณะนี้ได้เกิดปัญหาพ่อค้ารายใหญ่ทุบราคาปาล์มน้ำมัน จนทำให้ราคาปาล์มตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว จากราคาสูงสุด 7.70 บาท/กก. ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มาเหลือ 5-5.7 บาท/กก. ทั้งที่ผลผลิตปาล์มทะลายที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวขายออกสู่ตลาดยังมีปริมาณน้อยกว่าภาวะปกตินั้น
นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง และกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) กล่าวถึงปัญหาราคาปาล์มน้ำมันที่ดิ่งลงอย่างรวดเร็วว่า สาเหตุหลักเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ ตัวเกษตรกรที่เห็นว่าปาล์มราคาดีจึงรีบตัดโดยไม่สนใจถึงคุณภาพผลผลิต จะแก่อ่อนตัดหมด เพื่อจะได้นำไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋า
ขณะที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มก็ไม่ปฏิบัติตามมาตรการรับรองคุณภาพ และแย่งกันซื้อเช่นเดียวกัน ไม่ว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันจะมีคุณภาพหรือไม่ก็ตาม และสุดท้ายมาจับมือกันทุบราคาอีก จึงทำราคาปาล์มน้ำมันร่วงลงมาอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่ 4 วัน กว่า 2 บาท ถือเป็นการทำลายการตลาด ทั้งที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันของประเทศเพื่อนบ้านราคาสูง แต่ไทยเรากลับลดลงสวนทางกัน
ดังนั้น จึงขอให้เจ้าของสวนตัดเฉพาะผลปาล์มสุก ขณะที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกแห่งก็ควรซื้อผลผลิตที่ได้คุณภาพเท่านั้น ตามข้อตกลงคือจะต้องให้ได้คุณภาพน้ำมัน 18 เปอร์เซ็นต์ และต้องร่วมกันยกระดับคุณภาพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อไปให้ถึงคุณภาพน้ำมันปาล์ม 20 เปอร์เซ็นต์ จึงจะสามารถสร้างความยั่งยืนทางด้านราคา และเกิดความมั่นคงทางอาชีพของเกษตรกรด้วย