เช้านี้ที่หมอชิต – หลายจังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือ พายุไซโคลน “ยาอาส” หลังกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก ช่วง 25-29 พ.ค.นี้
ที่เขตเทศบาลนครตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เกิดลมพัดกระโชกแรง ฝนตกหนัก นานกว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้ต้นไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ ปลิวว่อนทั่วในเขตเทศบาลนครตรัง ส่วนที่บริเวณ บริษัทหาดทิพย์ จำกัด มหาชน สาขาตรัง ถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 ช่วงตรัง-พัทลุง ต้นไม้อยู่ในรั้วบริษัทฯ ซึ่งมีความสูงกว่า 20 เมตร และปกคลุมหนาโค่นล้มทับสายไฟฟ้าบนถนนตรัง-พัทลุง ทำให้ไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวดับ ตั้งแต่สะพานอนุสาวรีย์ พระยารัษฎานุประดิษฐ์ คอ ซิมบี้ ณ ระนอง ถนนตรัง-พัทลุง ขาออกตัวเมืองตรัง จนถึงบริษัทหาดทิพย์ฯ
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตรัง มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่ตัดต้นไม้ที่โค่นล้ม พาดสายไฟฟ้าออก ไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้นไม้มีขนาดใหญ่ กิ่งใบหนา ต้องตัดกิ่งและต้นออก เพื่อให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าสามารถเชื่อมต่อสายไฟฟ้าที่ขาดออกเชื่อมต่อกันได้ เพื่อจ่าย
ที่จังหวัดกระบี่ อิทธิพลของพายุโซโคลน ยาอาสเริ่มก่อตัวในทะเลอันดามันตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนที่จะพัดขึ้นฝั่งชายทะเล แต่ก็ไม่รุนแรงมากนัก
ขณะที่เรือประมงพาณิชย์ที่ท่าเทียบเรือประมงน้ำลึกจังหวัดกระบี่นำเข้าจอดเทียบท่าตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา หลังจากที่มีการประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงการหยุดการทำการประมง เรือจึงเข้าทำการเทียบท่าก่อนกำหนด
ด้านชาวประมงพาณิชย์ในจังหวัดกระบี่กล่าวว่า หลังจากที่มีคำประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุไซโคลนยาอาส จำเป็นต้องนำเรือประมงเข้าเทียบท่าไว้ก่อนทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกเรือประมง
บรรยากาศที่ท่าเรือบ้านทับละมุ ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา พบว่ามีเรือประมงพื้นบ้าน ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เรือทัวร์นำเที่ยว กว่า 100 ลำ ต่างนำเรือเข้าฝั่งเพื่อหลบคลื่นลมที่มีกำลังแรง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ส่วนคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง ความสูงของคลื่น 2-4 เมตร น้ำทะเลมีสีขุ่นข้น