- Line
ตรัง ยายวัย 91 ปี ร่ำไห้ เงินเก็บทั้งชีวิตฝากสหกรณ์ปะเหลียน ตั้งใจมาถอนเงินและปิดบัญชี เพื่อส่งเงินซื้อที่ดินให้ลูกแต่ถอนไม่ได้ ขณะสหกรณ์ตั้งโต๊ะชี้แจงแล้วว่าขาดสภาพคล่องเนื่องจากเกิดการทุจริตของเจ้าหน้าที่ภายใน เงินสูญหายขาดบัญชีไปกว่า 10 ล้านบาท และได้ดำเนินคดีไปแล้ว สรุปเบื้องต้นวันนี้ทำข้อตกลงแล้ว แต่สมาชิกหวั่นไม่ได้เงินต่อเนื่องเหมือนเดิมอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานที่สหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด ได้มีน.ส.ขวัญใจ ฤทธิ์หมุน อายุ 37 ปี 96/1 ม.2 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง พร้อมด้วย ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำนวนกว่า 20 ราย เข้ามารอถอนเงินฝาก หลังจากพบว่าสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน ขาดสภาพคล่อง และไม่มีเงินให้ ทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
ด้านนางฉวีวรรณ จิตรพงศ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 ม.2 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง (สวมเสื้อสีส้ม) มาแทนแม่ยาย อายุ 78 ปี ตั้งใจมาเพื่อจะมาปิดบัญชี โดยในบัญชีมีเงินทั้งหมด 258,649 บาท ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า เคยมาถอนได้ครั้งล่าสุด 500 บาท ทั้งหมดมารอเพื่อจะถอนเงิน และเพื่อนสมาชิก (สวมเสื้อสีชมพู) ได้บอกว่าทางสหกรณ์สัญญาว่าจะให้แต่ก็ไม่เคยได้ตามที่คุย จึงเรียกร้องอยากจะปิดบัญชีเพราะไม่มีความมั่นใจกับสหกรณ์แล้ว ไม่ได้ชี้แจงอะไร พอถึงเวลาก็ต้องมาทวง นัดแล้วก็ไม่ให้ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ถ้ามาก็ไม่เคยคุยด้วยถามก็ไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งของตนเองได้มาบ้างแล้วแต่ก็ยังเหลืออยู่ประมาณ 300,000 บาท
ขณะที่ทางคุณยายชื่อนางเขียก เขษมกาญจนพงศ์ อายุ 91 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221/1 ม.6 ต.สุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง (คุณยายใส่เสื้อลาย) บอกว่า ยายเพิ่งเข้ามาที่สหกรณ์เมื่อวานทราบว่ามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นจึงอยากปิดบัญชีเนื่องจากลูกต้องการเงินด้วย จะส่งเงินไปให้ด้วย เจ้าหน้าที่เขาแจ้งว่าไม่มีเงิน ให้รอพบประธาน ก็เลยมารอพบประธานอยากทราบว่าความเป็นมาเป็นอย่างไร
ส่วนทางด้านคุณตาบิน สงไข อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/1 ม.4 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง บอกว่า วันนี้ตามาถอนเงิน ในบัญชีมีอยู่ 400,000 บาท ยังไม่ได้ถอนเงินเลย และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้ง วันนี้ตั้งใจจะมาเบิกเงินสัก 4,000-5,000 บาท เพื่อจะเอาไปใช้จ่ายในครอบครัว แต่ก็ยังไม่ได้ อายุก็มากแล้วเก็บเงินไว้เพื่อไว้ใช้จ่ายในตอนแก่ เพื่อเอาไปจ่ายค่าไฟค่าน้ำ แต่ก็ถอนเงินไม่ได้ วันนี้ก็ไม่ได้อยากจะมาปิดบัญชี แค่จะมาถอนเงินเอาไปใช้จ่ายในครอบครัวก่อน แต่ก็ยังถอนเงินไม่ได้
ต่อมาทางนางกัลยา จิตพิทักษ์ รองประธานสหกรณ์ฯ นายอุทัย ชัยศิริ เลขาคณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน และนายประทีป หะเทศ เหรัญญิก คณะกรรมการเกษตรการปะเหลียน จำนวน 3 คน ได้ตั้งโต๊ะชี้แจงและเจรจาแก่สมาชิกเพื่อหาข้อสรุปและทำบันทึกข้อตกลงระหว่างสหกรณ์กับสมาชิกในการถอนเงิน โดยทางนางกัลยา ได้แจ้งแก่สมาชิกว่า ขณะนี้ทางสหกรณ์ปะเหลียนได้เกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงินเนื่องจากมีการทุจริตเกิดขึ้นภายใน ได้ตามแก้และมีการไล่ออกไปบางส่วนแล้ว และติดตามเงินจากการทุจริตในครั้งนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสมาชิกที่มาจะถอนเงินแต่ทางสหกรณ์ไม่มีเงินที่จะให้จริงๆ แต่ตามแผนของสหกรณ์ ณ ตอนนี้ ก็ได้เร่งรัดติดตามเงินกู้อย่างเร็วที่สุด หรือหากมีเงินเข้ามาสักก้อนที่เข้ามาช่วยซับพอร์ตในการจ่ายหนี้ธกส.ไปสักครึ่งหนึ่ง และอาจจะขอกู้ธกส.เอาเงินเข้ามาช่วยเหลือในส่วนเงินตรงนั้น และอาจจะต้องขอเวลาสมาชิกในการคืนเงินออกไป 5-6 เดือน ซึ่งเกิดจากทางกรรมการและสมาชิกได้เชื่อใจในการทำงานของผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ในการจัดเงินจนทำให้เงินสูญหายขาดบัญชีไปกว่า 10 ล้านบาท และได้ดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนทรัพย์สินที่ได้ตรวจยึดมาตอนนี้อยู่ระหว่างรอประชุมสมาชิกสามัญเพื่อขายทอดตลาดมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะนำเงินตรงนี้มาช่วยเหลือในการขาดสภาพคล่องของสหกรณ์ แต่ในขณะยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19
สำหรับข้อสรุปเบื้องต้นวันนี้ทางสมาชิกได้ตั้งข้อตกลงกับสหกรณ์ ในการรับถอนเงิน ซึ่งทางสหกรณ์สามารถรับชำระได้รายสัปดาห์ละ 3,000 บาท จำนวน 100 คน ตกคนละ 4 รอบ เป็นเงินจำนวน 12,000 บาท ซึ่งทางสมาชิกก็ต้องจำใจยอมรอและรับเงินเพียงแค่นี้ไปก่อน ส่วนรายเดือนยังอยู่ระหว่างการหารือในคณะกรรมการสหกรณ์ก่อน โดยเบื้องต้นได้วางไว้ว่าสมาชิกที่มีเงินฝากในบัญชีมากกว่า 1 ล้านบาทอาจจะจ่ายให้ได้เดือนละไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนเงินฝากตั้งแต่ 1 แสนไม่เกิน 1 ล้านบาท อาจจะจ่ายให้เดือนละไม่เกิน 5 หมื่นบาท
ในขณะที่คุณยายชื่อนางเขียก เขษมกาญจนพงศ์ อายุ 91 ปี (คุณยายใส่เสื้อลาย) พูดทั้งน้ำตาว่า วันนี้ก็มานั่งฟังในที่ประชุมต้องยอมรับว่ารู้สึกเสียใจมาก เพราะเงินเก็บหอมรอมริบมาเป็นเวลานาน พอถึงเวลาจะใช้ไม่มีโอกาสได้เอาเงินนี้ไปใช้ ตอนนี้ก็กังวลมาก ตนเองได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเองคนเดียวเพื่อจะมาถอนเงิน จากบ้านระยะทาง 6 กิโลเมตร มาที่สหกรณ์เพื่อจะมาถอนเงินส่งไปให้ลูก ตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจมากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เสียใจมาก หลังจากที่ข้อสรุปแบบนี้ถ้าต้องมาถอนเงินอาทิตย์ละ 3,000 บาท ตนเองก็ต้องมาขี่รถมอเตอร์ไซค์มาแบบนี้ แต่ตอนนี้ก็ไม่มั่นใจในตัวของสหกรณ์แล้วว่าจะให้สักเดือนสองเดือนแล้วก็หยุดไปอีก เราก็ต้องมายื่นเรื่องกันใหม่ ซึ่งตอนนี้ไม่มั่นใจแล้วจริงๆ โดยคุณยายมีเงินฝากอยู่ในบัญชีทั้งหมด 1,038,714 บาท
อย่างไรก็ตามทางสหกรณ์จังหวัดตรังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วพบมีการทุจริตภายใน และให้ทางสหกรณ์ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ณ ขณะนี้ทางสหกรณ์การเกษตรปะเหลียนได้ขาดสภาพคล่องทางการเงินจริง แต่ยังมีความมั่นคงอยู่
ทั้งนี้ทางสหกรณ์การเกษตรปะเหลียนจำกัดมีสมาชิกสามัญและสมาชิกสมทบกว่า 3,000 ราย ณ ขณะนี้มีผู้เดือนร้อนและประสงค์ที่จะถอนเงิน 87 ราย และรายใหญ่ที่มีเงินฝากหลักแสนถึงหลักล้านอีก 30 ราย ซึ่งมีมูลค่าเงินฝากโดยประมาณ 30 ล้านบาท