เผยแพร่:
ปรับปรุง:
ตรัง – ช้างทั่วประเทศกว่า 60 เชือก รวมทั้งใน จ.ตรัง ขาดแคลนอาหารหนัก หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ต้องย้ายกลับบ้าน แถมเจอสภาพอากาศร้อนจัดซ้ำ ทำอาหารธรรมชาติขาดแคลน จนเจ้าของบางรายต้องประกาศขายช้าง
จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เป็นระลอกที่ 2 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในแหล่งท่องเที่ยว และไม่มีนักท่องเที่ยว ทำให้ช้างจำนวนมากทั่วประเทศ รวมทั้งใน จ.ตรัง ที่มีรวมกว่า 60 เชือก ต้องเดือดร้อนหนัก โดยส่วนหนึ่งที่ไปทำงานอยู่ในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น กระบี่ พังงา สงขลา ต้องเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนามาอยู่ในพื้นที่ จ.ตรัง เนื่องจากไม่มีงาน ไม่มีเงิน ประกอบกับแหล่งหญ้า หรืออาหารธรรมชาติขาดแคลน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน และยังต้องหาแหล่งน้ำให้ช้าง จนบางรายต้องประกาศขายช้าง แต่ไม่มีคนซื้อ วอนรัฐรับจำนำตั๋วช้างเพื่อนำเงินมาต่อชีวิตทั้งคน และช้าง
น.ส.พิมพร เหมรัตน์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 5 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง กล่าวว่า ตนเองและพี่น้องมีช้างรวมกันทั้งหมด 21 เชือก แต่จากสถานการณ์ภัยแล้งได้ส่งผลให้ขาดแคลนอาหารตามธรรมชาติ ประกอบกับเจ้าของช้างเองก็แทบไม่มีงานทำเลย ซึ่งเดิมส่วนใหญ่จะไปทำงานตามแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็ต้องหยุดหมด ขนช้างกลับมาบ้านนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ในครั้งแรก จนมาเกิดผลกระทบซ้ำสองในการระบาดล่าสุด เหลือเพียงแค่งานชักลากไม้เล็กๆ น้อยๆ จากรายได้ที่เคยได้ถึงเดือนละประมาณ 1 แสนบาท ขณะนี้แทบไม่มีเข้ามาเลย จึงเริ่มทำให้ช้างที่เลี้ยงไว้ประสบปัญหาผอมลง บางเชือกกินนอนไม่ได้ ทำงานก็ตกมัน จึงต้องนำไปผูกล่ามไว้ในที่ปลอดภัย
ขณะที่อาหารก็ขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของช้าง เนื่องจากปีนี้ภัยแล้งรุนแรง ทำให้หาอาหาร เช่น ต้นกล้วย ต้นอ้อย ต้นสับปะรดหาได้ยาก บางส่วนต้องไปขนมาจาก จ.กระบี่ เสียค่าใช้จ่ายคันละประมาณ 2,000 บาท ทุกวันนี้ตนเองต้องมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ สารพัด รวมทั้งเงินเดือนของควาญช้างคนละ 5,000 บาท แต่ทุนทรัพย์ที่เคยมีกำลังหมดลงไปเรื่อยๆ เพราะต้องประสบปัญหาย่ำแย่เช่นนี้มายาวนานต่อเนื่องเป็นปีแล้ว และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่
กระทั่งล่าสุด มีข่าวว่าสามารถเอาตั๋วช้างไปกู้เงินได้ที่ ธ.ก.ส. ในราคาเชือกละ 3 แสนบาท เพื่อจะได้นำเงินก้อนนี้มาแก้ปัญหา และต่อชีวิตอาชีพเลี้ยงช้างต่อไป แต่พอตนเองไปติดต่อเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. สาขาย่านตาขาว กลับบอกว่ายังไม่มีคำสั่งมาจากเบื้องบนเลย จึงทำให้ยังไม่มีเงินทุนใดๆ มาช่วยเหลือ
ด้านนายสุชาติ บัวเกิด ประธานชมรมกลุ่มคนเลี้ยงช้างจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ช้างใน จ.ตรังกว่า 60 เชือก ต้องตกอยู่ในภาวะตกงานหลังการระบาดของโควิด-19 โดยช้างจำนวนดังกล่าวเดิมทำหน้าที่เป็นช้างท่องเที่ยวอยู่ใน จ.กระบี่ พังงา ภูเก็ต และ จ.สงขลา แต่เมื่อมีการระบาดของโรค ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ ปางช้างไม่มีงานให้ช้างทำ เจ้าของจึงต้องนำช้างกลับบ้านเพื่อมาทำงานลากจูงไม้ยางพาราจากสวนยางพาราห่างไกลถนน แต่เหมือนเคราะห์ร้ายซ้ำสอง เมื่อปัจจุบันราคาไม้ยางตกต่ำ เจ้าของสวนไม่โค่นไม้ยาง จึงไม่มีงานลากจูงให้ช้างทำ เจ้าของช้างต้องขาดรายได้ ขณะที่ยังคงเป็นหนี้สินธนาคาร เพราะโดยแต่ละเดือนเจ้าของช้างต้องแบกรับ ทั้งค่าอาหารช้าง ค่าขนส่งอาหาร และค่าจ้างเลี้ยงช้างนับหมื่นบาทต่อเชือก
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า จากภาวะดังกล่าวทำให้เจ้าของช้างหลายรายประกาศขายช้างในราคาถูก จากที่เคยขายกันในราคาเชือกละ 3 ล้านบาท ตอนนี้ขายกันเพียงราคา 1.5 ล้านบาทต่อเชือก แม้จะขายถูก แต่ก็ไม่มีใครซื้อ เพราะซื้อไปก็ไม่มีงานรองรับ ส่วนสาเหตุที่ประกาศขายช้างเพราะเจ้าของต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย และต้องการนำเงินไปปลดหนี้ธนาคาร ซึ่งไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้น และถือเป็นความเดือดร้อนที่รุนแรงในรอบหลายสิบปี เพราะตนเองเลี้ยงช้างมา 30 ปี ไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิตที่ผู้ประกอบการเลี้ยงช้างย่ำแย่ขนาดนี้ อีกทั้งยังต้องมาเจอปัญหาขาดแคลนเรื่องอาหารช้าง และน้ำที่หายากในช่วงหน้าแล้งซ้ำเติมอีก
