19 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน หมู่ 9 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณหลังสนามบินตรัง กว่า 10 ครัวเรือน ได้รับผลพวงจากการก่อสร้างสนามบิน อย่างรุนแรงจากมลภาวะฝุ่นละออง ซึ่งได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง นานกว่า 1 ปี ไร้หน่วยงานดูแลอย่างตรงจุด หลังรับแจ้ง จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบ
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเนื่องจากมีฝุ่นคละคลุ้งเข้าไปในบ้านเรือนชาวบ้าน ทั้งจากการก่อสร้าง และรถบรรทุกเข้าออกหลายคัน ส่งผลกระทบต่อเด็ก คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง โดยชาวบ้านต้องปิดประตูบ้านเงียบ ทั้งยังมีการนำผ้ายางมาปิดหน้าบ้านไว้ เพื่อป้องกันฝุ่น และต้องใช้ผ้าปิดปากกันทุกครัวเรือน รวมถึงพืชพันธ์การเกษตร สวนยาง พืชสวนครัว ต้นไม้ ต่างมีฝุ่นเกาะหนาทำให้แห้งตายบางส่วน
ขณะที่นางจุลีพร ชิดแก้ว อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/3 ม.9 ต.โคกหล่อ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกล่าวว่า ตนได้รับผลกระทบจากฝุ่นที่สร้างสนามบิน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งมาว่าฝุ่นจะหายไปภายใน 1 เดือนแต่ตอนนี้ผ่านไป 3-4 เดือนแล้ว ยังไม่จบสิ้น ไม่รู้ชาวบ้านต้องอยู่อย่างไร เพราะได้รับความเดือดร้อนมากไม่มีใครมาดูแลมาสนใจ
อยากให้มาดูแลชาวบ้านบ้างตอนนี้คันไปหมดทั้งตัวแล้ว ซึ่งบ้านตนก็ได้รับผลกระทบฝุนเต็มบ้าน หม้อข้าว หม้อแกง เต็มไปด้วยฝุ่นไม่รู้จะอยู่กินอย่างไรแล้วในแต่ละวัน ช่วงกลางวันเสื้อผ้าก็ซักไม่ได้ ฝุ่นมากเกินไปต้องซักกลางคืน
นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยติดเตียงเป็นคนแก่ 2 คน นอนติดเตียงอยู่ ฝุ่นเข้าจมูกเข้าตา ตนก็อยากรู้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำอย่างไรกับชาวบ้าน ต้องมาดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านบ้าง แต่ละวันตื่นเช้ามาชาวบ้านล้างหน้าด้วยฝุ่น หายใจไม่ออก แสบจมูก ฝุ่นมาคล้ายละอองฝน ติดตามต้นยางกรีดยางไม่ได้แล้ว
เคยร้องเรียนมาแล้ว มีปลัดเข้ามาดูแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาพูด มาโกหกตั้งไว้แล้วก็ปล่อยพ้นไป ตนรู้สึกเครียดมากเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว
ด้าน นายคำนวน พูลสุวรรณ อายุ 60 อยู่บ้านเลขที่ 87 ม.9 กล่าวว่า ตนได้รับผลกระทบมากแสบจมูก เจ็บคอ มาเป็นเดือนแล้ว ไปพบแพทย์มา 2 ครั้ง โดยหมอบอกว่าแพ้ฝุ่นละออง ตนจึงอยากให้มีการป้องกัน รดน้ำให้บ่อยกว่านี้ ตอนนี้ตนและครอบครัวก็ได้รับผลกระทบกันทั้งบ้าน
ขณะเดียวกันนายธนพนธ์ รักษาจันทร์ อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.โคกหล่อ กล่าวว่า ตอนนี้มีบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจำนวน 1 0ครัวเรือนแล้ว ได้รับผลกระทบกันอย่างต่อเนื่องเคยไปพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วก็มีการแก้ไขระดับหนึ่ง แต่ผ่านไปก็กลับเป็นแบบเดิม วันนี้ชาวบ้านก็รวมพลมาคุยเรื่องนี้อีกครั้งอยากให้ผู้ที่ดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนให้ดีที่สุด ต่อไปชาวบ้านอาจจะต้องเดินขบวนเรียกร้องเรื่องนี้อีก ทนรับไม่ไหว ทุกคนเดือดร้อนหมด.
