
‘ชวน’ ยังใบ้ตัดสินผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 ขณะที่ชาวบ้านสับสนว่าใครจะลง ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ ‘ชวน’ ส่งซิกยอมรับ ส.ส.ยังไหลออกไม่หยุด ยอมรับกระแสพรรคตกต่ำ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 สิงหาคม ที่โรงเรียนกันตังพิทยากร นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานกล่าวบรรยายการจัดกิจกรรมเครือข่ายการเมืองสุจริต ระดมความคิดพัฒนา โดยพรรคประชาธิปัตย์ เขต 4 จังหวัดตรัง
นำโดย นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 โดยมีผู้ร่วมรับฟังการเปิดเวทีครั้งนี้ประมาณ 700 คน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในการหาเสียงของนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 ท่ามกลางความขัดแย้งของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และอดีต ส.ส.พรรคคนหนึ่งที่มีความขัดแย้งที่จะส่งผู้สมัครแข่งขันกับนายสมบูรณ์
นายสมบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 4 กล่าวว่า ตนได้จัดกิจกรรมเครือข่ายการเมืองสุจริต ระดมความคิดพัฒนา เป็นแนวคิดว่าในเรื่องของการเมืองต้องทำการเมืองที่สุจริต จึงกราบเรียนเชิญท่านชวน หลีกภัย มาเป็นประธานในพิธีเปิดและบรรยายพิเศษกับกลุ่มเครือข่าย ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะยืนยันว่าตนเป็นผู้สมัครเขต 4 หรือไม่นั้น แต่ในวันนี้ตนมาทำกิจกรรมในพื้นที่ หลังจากที่รัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลงเป็น 4 เขต ท่านชวนก็ให้ตนมาทำพื้นที่ในการเตรียมตัวเป็นผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ทำพื้นที่ในเรื่องการพัฒนาบ้าน พัฒนาเมือง ติดต่อประสานงานเรื่องงบประมาณ และขณะนี้พยายามผลักดันจังหวัดตรังให้เป็นเมืองเจ้าภาพของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปี 2568 ซึ่งลงทำงานอยู่ และเป็นเลขาประธานสภาผู้แทนราษฎรจะขึ้นไปทำหน้าที่เมื่อมีการประชุมสภา
ในส่วนที่มีกระแสออกมาจนทำให้ประชาชนสับสนว่าใครจะได้ลงพรรคประชาธิปัตย์ เขต 4 นั้น ตนเชื่อว่าพรรคมีหลักยึดในการสรรหาตัวผู้สมัคร ซึ่งเขต 4 เป็นเขตเลือกตั้งเดิมของตน ซึ่งเคยเป็นอดีต ส.ส.ของที่นี่ และไม่ได้เป็น ส.ส.ที่แพ้การเลือกตั้ง เหตุที่ตนขึ้นไปบัญชีรายชื่อเพราะรัฐธรรมนูญเปลี่ยนจาก 4 เขต เหลือ 3 เขต ตนเลยอาสาไปเป็นปาร์ตี้ลิสต์ และมาวันนี้รัฐธรรมนูญมันเปลี่ยนให้ตรังมี ส.ส. 4 เขต ตนก็ลงมาทำหน้าที่เตรียมที่จะเป็นผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตอนนี้ตัวเองมีความพร้อม เพราะมีประสบการณ์ในการเป็นผู้สมัครในการเลือกตั้ง การทำหน้าที่ให้กับพี่น้องประชนที่นี่ ตนทำงานการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว เรื่องของครอบครัวใดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนยึดเป็นหลักการของชีวิตในการทำการเมืองว่าเราทำกิจกรรมเพื่อพี่น้องประชาชน

นายชวน กล่าวว่า ตนทำการเมืองสุจริตมาเกือบตลอดชีวิต สิ่งที่เราทำมาไม่ยุ่งกับคนระดับใด ซึ่งที่สภาได้ทำโครงการบ้านเมืองสุจริต ซึ่งตั้งคณะกรรมการจากสถาบันการศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อมาทำงานร่วมกัน โดยไม่เฉพาะเจาะจงแต่เรื่องการเมือง ทำทุกเรื่อง ซึ่งเราทุกคนต้องยอมรับความจริง ส่วนสัญญาณความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้ลดลงแต่จะอยู่เฉยๆ ปล่อยไปตามยถากรรมบ้านเมืองก็อันตราย ทุกฝ่ายต้องรับ แต่โชคดีที่มีหลายองค์กรที่จะทำเรื่องนี้ แต่สำคัญที่สุดคือภาคปฏิบัติที่ทุกคนจะต้องทำเพราะมันคือตัวปัญหา เพราะธรรมาภิบาลทุกคนท่องได้หมด
ขณะนี้พรรคการเมืองที่เกิดใหม่มาทาบทามคนของพรรคจำนวนมาก คนที่มีความมั่นคงก็ไม่มีใครไป แต่บางส่วนก็ไปซึ่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่พูดยาก บางคนมองว่าไม่มีผล บางคนมองว่าพรรคไม่เหมือนเดิม พรรคไม่เข้มแข็ง หรือไม่เป็นที่นิยมเหมือนเดิม ไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ ตนพยายามบอกสมาชิกว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้มากได้น้อยขึ้นลงอย่างไรก็ตามแต่เป็นพรรคถาวรที่อยู่ตลอด ไม่ใช่อยู่เฉพาะกิจเพื่อกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง
ส่วนจะส่งผลถึงเก้าอี้หรือไม่นั้นไม่สามารถรองรับอะไรได้ แต่การที่เรามีตัวผู้สมัครที่เข้มแข็งอยู่พรรคอื่นเข้าไปก็มีผลกระทบบ้าง
ในส่วนความขัดแย้งภายในพรรคระหว่าง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กับ อดีต ส.ส.สมชาย โล่สถาพรพิพิธ ตนมองว่าทั้งคู่เป็นผู้ใหญ่แล้วก็ต้องหันหน้ามาพูดกัน ส่วนที่อดีต ส.ส.สมชายสนับสนุนนายทวีที่เป็นพรรคคู่แข่งนั้นไม่มีใครมาพูดกับตน และยังไม่เคยได้ยิน การเลือกตั้งครั้งต่อไปในพื้นที่ภาคใต้ก็มีรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ปกติแล้วเราให้เกียรติรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ความขัดแย้งมันเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคล แต่ตนเชื่อว่าอย่างไรทุกคนต้องยึดพรรคเอาไว้ ส่วนเรื่องกระแสการทำโพลในเขต 4 นั้นตนไม่ทราบ
อย่างไรก็ต้องเป็นเรื่องของรองหัวหน้าพรรค หลักเกณฑ์ตัวผู้สมัครนั้นก็ต้องแล้วแต่กรรมการบริหารพรรค ถ้าระดับภาคก็ต้องให้แต่ละภาคเป็นผู้ดูแล ภาคใต้รองหัวหน้าก็เปลี่ยนเป็นคุณเนวิน ชิตชอบ ตัวผู้สมัครเขต 4 คุณสมบูรณ์ก็เป็น ส.ส.ที่ทำงานดี เป็น ส.ส.มา 4 ปี ที่มีกระแสข่าวว่าที่ตนมาในงานนี้เป็นการสนับสนุนคุณสมบูรณ์ ตนจึงอยากบอกว่าตนมาทุกครั้งที่เขาจัดกิจกรรมกับชาวบ้าน มาพูดคุยกับชาวบ้าน เดือนที่ผ่านมาตนก็มาเช่นกันเพราะเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องมา
ในส่วนที่คุณสุณัฐชา ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคแต่สนับสนุนอีกคนหนึ่ง ในขณะที่คุณสมบูรณ์เป็นคนเก่าคนแก่ อันนี้ก็ต้องรอผู้บริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา ซึ่งตนก็ต้องดูแลเรื่องความขัดแย้งภายในพื้นที่ ไม่ได้เป็นกรรมการแต่มีหน้าที่ช่วย ซึ่งการตัดสินใจตนไม่มีหน้าที่ตรงนี้

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่






