ตำรวจชื่อดังเมืองตรัง “จ่ามิกกี้” ลั่นไก 5 นัด จับตายโจรนิรนามกลางป่า คลั่งชิงรถชาวบ้านขับหนี โดนไล่ล่ากว่า 4 ชั่วโมง เร่งสืบสวนเป็นใครมาจากไหน
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 20 ก.พ.2564 พ.ต.ท.ปฐมพร ปราบปัญจะ สารวัตร(สอบสวน) สภ.คลองเต็ง จ.ตรัง รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายภายในสวนยางพารา พื้นที่หมู่ 5 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง แพทย์รพ.ศูนย์ตรัง อัยการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ตำรวจชุดสืบสวนและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง
- อ่าน เสียงร่ำไห้ดังระงม! ถุงกับข้าวตกเกลื่อน ลูกขี่ชนท้ายแม่ดับ-หลาน12เจ็บ
- อ่าน พ่อช็อก! ลูก3ขวบหลังลายแผลบวมช้ำ ถามรร.ดังไร้คำตอบ แต่ให้เรียนฟรี
- อ่าน แจ้งข้อหาหนัก หนุ่มบุกร้านกอดสาว โดนรวบส่งตร. เผยอดใจไม่ไหว แอบชอบมานาน
ที่เกิดเหตุภายในสวนยางริมเนินเขา พบศพชาย นอนหงายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนของตำรวจเข้าที่ศีรษะ 1 นัด หน้าขาขวา 1 นัด หน้าขาซ้าย 3 นัด ตรวจสอบภายในตัวไม่พบเอกสารยืนยันตัวตนหรือสิ่งของใดๆ อายุประมาณ 40 ปี โดยมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัดในกระเป๋าคนร้าย
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุชายคนนี้ซึ่งไม่มีใครทราบว่าเป็นใครมาจากไหน ก่อเหตุพยายามจะปล้นรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน บนถนนสายเลี่ยงเมืองตรัง-คลองเต็ง แต่เจ้าของรถไต่อสู้ขัดขวาง จากนั้นคนร้ายวิ่งไปที่หน้าร้านขายของชำเพื่อจะชิงรถรถจักรยานยนต์อีกครั้ง แต่เจ้าของต่อสู้ขัดขืน ทำให้คนร้ายวิ่งไปบ้านอีกหลังห่างกัน 150 เมตร ขโมยรถกระบะขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง โดยมีเจ้าของรถพร้อมด้วยเพื่อนบ้านขับรถไล่ติดตามพร้อมแจ้งตำรวจ
“จากนั้นคนร้ายขับเข้าไปจอดในป่ารกทึบริมเนินเขาแล้ววิ่งหนีเข้าสวนยาง กำลังตำรวจ สภ.เมืองตรัง พร้อมชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.ตรัง และฝ่ายปกครองกว่า 10 นาย ได้เข้าติดตามจนพบคนร้ายจึงสั่งให้นั่ง อย่าต่อสู้ แต่คนร้ายไม่ยอมให้จับวิ่งปรีเข้าชกต่อยเจ้าหน้าที่แล้ววิ่งหนี โดยมี จ่ามิกกี้ ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง วิ่งไล่ตามกระโดดตระครุบ แต่คนร้ายพยายามยื้อแย่งอาวุธปืนระหว่างนั้นคนร้ายชักอาวุธปืนออกมาลั่นไกใส่ จ่ามิกกี้ แต่กระสุนด้านเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงใส่เพื่อให้คนร้ายหยุด แต่กระสุนเข้าจุดสำคัญเสียชีวิต”
ด้านพล.ต.ต.สันทัด ระบุว่า คนร้ายไม่น่าจะใช่คนในพื้นที่ อีกทั้งสวมสร้อยพระแม่อุมาเทวี ซึ่งคนภาคใต้ไม่นิยมกัน จะต้องสอบสวนว่าเป็นใครมาจากไหน โดยคนร้ายมีอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ และได้ลั่นไกยิงแล้วแต่กระสุนด้าน ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง