เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ตรัง – เปิดงานวันปักดำ และงานประชาสัมพันธ์ “ข้าวเบายอดม่วง” ข้าวพันธุ์ดั้งเดิมชื่อดัง ซึ่งอยู่ระหว่างขอรับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัดตรัง โดยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย และสนุกสนาน
น้องๆ จำนวน 8 คน ร่วมแข่งขันกินซูชิ ข้าวเบายอดม่วง พาสต้า และขนมจีนข้าวเบายอดม่วง โดยมีกองเชียร์กลุ่มชาวบ้านต่างค่อยลุ้นอยู่ข้างๆ ปรากฏว่าเด็กชายร่างสูงใหญ่คว้ารางวัลที่ 1 ไปครอง เนื่องจากกินเสร็จเร็ว ใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที ก็ชนะเพื่อนๆ น้องๆ ที่เข้าร่วมแข่งขันไปอย่างขาดลอย
นอกจากนั้นยั งมีการแข่งขันแบกต้นกล้าวิ่งเปี้ยว สร้างความสนุกสนานให้แก่งาน และน้องๆ นักเรียนระดับชั้น ป.4-6 ทั้งเด็กชายและเด็กหญิง รวมทั้งผู้ใหญ่อีก 2 คน รวมจำนวน 10 คน ซึ่งร่วมลงแข่งขันจับปลาไหล และกบในแปลงนา ในสภาพที่ล้มลุกคลุกคลานชนิดก้นขวิดกันเลยทีเดียว โดยได้มีการนำกบกับปลาไหลมาปล่อยลงไปในนาข้าว แล้วให้เด็กๆ ไล่จับ ซึ่งใครจับได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ และได้รางวัลไป
ด้านเด็กๆ ที่มาร่วมงานบอกว่า ตัวเองและเพื่อนๆ มาจากโรงเรียนบ้านบางยาง โดยกิจกรรมในวันนี้สนุกมาก วันนี้จับกบได้ไปคนละ 1 ตัว ส่วนรางวัลได้กบกลับบ้านไป
สำหรับกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานวันปักดำ และงานประชาสัมพันธ์ข้าวเบายอดม่วง โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมทั้งร่วมนั่งรถไถเพื่อปักดำ ตามโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวเบายอดม่วง เพื่อรองรับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัดตรัง หรือสินค้า GI ตามโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ณ แปลงนาบ้านหนองแสง หมู่ 10 ต.นาพละ อ.เมืองตรัง
ทั้งนี้ “ข้าวเบายอดม่วง” เป็นข้าวประจำถิ่นที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นข้าวพันธุ์ดั้งเดิมของจังหวัดตรัง และขณะนี้อยู่ในระหว่างขอรับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัดตรัง ซึ่งจังหวัดตรังได้กำหนดนโยบายส่งเสริมให้ขยายพื้นที่การปลูกข้าวเบายอดม่วง โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ด้วยงบประมาณ 980,000 บาท
สำหรับกิจกรรมในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์การขยายพื้นที่การปลูกข้าวเบายอดม่วงให้เพิ่มมากขึ้น และเพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตข้าวในปีการเพาะปลูกใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม และภูมิปัญญาที่เหมาะสมกับพื้นที่ รวมทั้งเพื่อตระหนักถึงคุณค่าของข้าวเบายอดม่วง และได้บริโภคข้าวเบายอดม่วงที่ปลอดภัย ตลอดจนเป็นการสืบสานประเพณี และวัฒนธรรมการทำนา หรือปลุกจิตสำนึกให้มีความภาคภูมิใจในวิถีไทย อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือ ส่งเสริม อุดหนุนผลผลิตของกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดตรัง ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
