ภูมิภาค
คิงฟิชเชอร์รีทรีทรีสอร์ทย่านปากเมงปรับตัวสู้โควิด เปิดร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ดั้งเดิม เหมือนนั่งกินที่ยุโรป
วันอาทิตย์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2564, 16.56 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วิกฤตโควิด 19 ในปัจจุบันส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อธุรกิจและกิจการในหลายๆรูปแบบทั้งทางตรงและทางอ้อม ธุรกิจการท่องเที่ยวเองก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจนธุรกิจการท่องเที่ยวเองต้องหยุดดำเนินกิจการและกลายเป็นอัมพาต เนื่องจากโรงแรมและรีสอร์ทไม่สามารถเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ ทำให้บางโรงแรมต้องหยุดกิจการชั่วคราว โรงแรมบางแห่งแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวต้องปิดตัวลงถาวร เช่นเดียวกับ คิงฟิชเชอร์รีทรีท (Kingfisher Retreat) บ้านคลองเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ที่แต่ก่อนเคยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งทางรีสอร์ทต้องหยุดดำเนินการธุรกิจรีสอร์ทชั่วคราวจากวิกฤติโรคระบาด
ช่วงเวลานี้เองคุณอัลเบอร์โต้ บอนฟานติ (Alberto Bonfanti) ชาวเมืองเวโรนา ประเทศอิตาลี และนางนวินดา ปานชนะ สามีภรรยาเจ้าของรีสอร์ท ด้วยความที่ชอบทำอาหารเป็นทุน จึงปรับตัวใช้ที่พักทานอาหารของรีสอร์ทเปิดเป็นครัวอิตาลีโฮมเมด โดยเอกลักษณ์ของที่นี่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของอิตาลี ใช้วิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิม ให้ลูกค้าสัมผัสถึงรสชาติของวัตถุดิบโดยใช้เครื่องปรุงแต่งให้น้อยที่สุดและที่สำคัญราคาอาหารไม่แพเหมือนร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนทั่วไป ทางร้านมีเมนูแนะนำที่เป็นอาหารชูโรงของร้านหลายเมนู อาทิ โคลด์คัท (Cold cut) ที่ใช้เนื้อจาก 4 เมือง ทั้งซาลามี่ เนื้อสเป็คท์ (หมูแฮมส่วนขารมควันจากเมือง Bolzano) โบโลน่า ซาลามี่โฮมเมดสูตรพิเศษของทางร้าน เฟตต้าชีสโครงการหลวง ทานคู่กับมะกอกดำนำเข้า มะเขือเทศราชินี และขนมปังกริซซิลลี่
ฟิเลมิยอง (Fillet Mignon) หมูสันในพันด้วยเบคอนทานคู่กับซอสปาเต๊ะมะกอกและโหระพาสูตรพิเศษของทางร้าน ทูน่าทาร์ทาร์ (Tuna Tatar) สลัดทูน่าดิบทานคู่กับซอสบัลซามิคสูตรเข้มข้นของทางร้าน มีเครื่องเคียงเป็นมะนาว มะกอกเขียวจากกรีก ผักชีลาว คาเปรเซ่สลัด ( Caprese Salad) เป็นชีสมอสซาเรลล่าสด ทานคู่กับมะเขือเทศเพื่อให้ได้รสสัมผัสที่ได้ชีสที่เหนียวแน่นหนึบและความสดชื่นและความกรอบของมะเขือเทศ ที่เพียงแค่โรยเกลือพริกไทยดำก็อร่อยเหาะ คัทออฟบีพ ( Cut of Beef) เนื้อสันในออสเตรเลียย่างแบบมีเดียมแรร์ เนื้อนุ่ม รสชาติชุ่มฉ่ำหวานเนื้อ แบบไม่ต้องขอซอสหรือน้ำจิ้มเพิ่ม แค่เนื้อเพียวๆก็ฟินแล้ว สายเนื้อหรือ Meat Lover ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
เมื่อพูดถึงอาหารอิตเลียนเมนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ พาสต้า โดยพาสต้า คาโบนารา ของที่นี่เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจาก ที่นี่จะใช้เนื้อแก้มหมู (กวนชาเล่) ซึ่งเป็นสูตรของอิตาเลียนดั้งเดิม ผัดกับไวน์ขาวและชีสกราน่าพันดาโน่ โดยไม่ใส่ครีมแบบร้านอื่นๆทั่วไป ในขณะเดียวกัน พาสต้าโบโลเนสซึ่งได้รับความนิยมมากๆอีกหนึ่งอย่างของทางร้านนั้นจะทำเป็น พาสต้าเส้นตาเกรตาเล่ผัดซอสโบโลเนส ซึ่งเป็นสูตรต้นตำรับจากอิตาลีในแคว้นโรมันญ่า น้ำซอสทางร้านผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันโดยต้องเคี่ยวซอสและน้ำสต็อคนานกว่า 4 ชั่วโมง นอกจากนี้ความพิเศษของเมนูจานนี้คือ ทางร้านทำเส้นพาสต้าแบบแบน(พาสต้าตาเกรตาเล่) สไตล์โฮมเมดเองอีกด้วย เมื่อทานของคาวเสร็จแล้วสิ่งที่จะขาดไม่ได้คือของหวาน ทางคิงฟิชเชอร์ได้เตรียมหวานเป็นไอศกรีมพิสตาชิโอ มีส่วนผสมถั่ว นม ครีม และน้ำตาล หวานมันกำลังดีและอร่อยมากๆ พูดเลยว่าถ้วยเดียวไม่พอจริงๆ ร้านเปิดให้บริการ 2 รอบ แบ่งเป็นรอบเที่ยงเวลา 12.00-14.00 น.รอบเย็นเวลา 18.00-20.30 น. ปิดทุกวันจันทร์และอังคาร โทรสำรองโต๊ะและสอบถามเส้นทาง 080-519-1663
อัลเบอร์โต้ เล่าให้ฟังว่า หัวใจความอร่อยของร้านแห่งนี้คือทุกเมนูที่ร้านไม่ใส่ผลชูรสหรือเครื่องปรุงอย่างอื่นที่ทำลายรสชาติของวัตถุดิบ วัตถุดิบทั้งหมดที่ร้านใช้ของนำเข้าจากอิตาลีเกือบทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การทานอาหารอิตาเลี่ยนฉบับที่แท้จริง เราทำอาหารภายใต้แนวคิดว่า ตามปกติคนอิตาลีจะกินอาหารแบบไหน เราก็จะปรุงอาหารแบบนั้น พวกเราอยากจะนำเสนออาหารอิตาเลียนแท้ๆให้ลูกค้าที่มากินได้รับรู้ว่าอาหารอิตาเลียนที่แท้จริงเป็นอย่างไร และอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าอาหารอิตาเลียน ไม่ใช่แค่ของกิน แต่มันยังบ่งบอกถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ความรู้ แฟชัน ซึ่งอาหารแต่ละจานจะบ่งบอกถึงความเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงมากๆจากเมืองต่างๆ เช่น Busara Prawn ซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมทางตอนเหนือเป็นอาหารที่มาจากบ้านเกิดของตนคือเมืองเวโรน่า นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจากทางตอนใต้ในสไตล์ซิซิลี Sicily ด้วย
โดยตนได้เลือกวัตถุดิบสั่งนำเข้าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น กวนชาเล่(แก้มหมู) แฮม ส่วนเส้นพาสต้าตนและภรรยาทำกันเองสไตล์โฮมเมด เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์และการบริการแบบอิตาเลียนเมื่อมาใช้บริการ โดยสิ่งสำคัญที่สุดนั้น คือเราอยากให้ผู้มาทานเห็นว่า ปกติพวกเรากินอะไรกัน ฉะนั้นกลุ่มลูกค้าของเราก็จะเป็นคนที่มีความสุขกับอาหาร มีความสุขกับการกิน และผ่อนคลายไปกับบรรยากาศภายในสถานที่ของเรา ซึ่งถ้าลูกค้าของเรามีความสุขแค่นั้นพวกเราก็มีความสุขแล้ว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่