เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ปราจีนบุรี- ผวจ.ปราจีนบุรี สั่งตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหายรับมือเหตุอันตรายยกระดับป้องกันภัยจากระดับ 1 เป็น 2 ขณะบริษัทเจ้าของวัสดุชี้ยังไม่มีสัญญาณซีเซียม 137 หลุดจากเครื่องกำบัง ยันให้รางวัล 50,000 บาทคนแจ้งเบาะแสสู่การติดตามกลับคืน
จากกรณีที่มีกระแสข่าวท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1 ม.2 ถนนทางหลวง 3079 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีลักษณะเป็นท่อกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้าซึ่งหากนำไปกำจัดไม่ถูกวิธีจะเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้ที่ได้สัมผัสนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ ( 14 มี.ค.) นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และนายกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อคลายข้อสงสัยของประชาชน ณ ห้องประชุม 402 ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี
โดย นายกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด เผยว่าวัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายไปจากบริษัท ฯ ประมาณวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาและจากการสอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทราบว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายมีโลหะตกลงพื้นแต่ไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตราย
ทั้งนี้วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้าที่มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 16-17 เมตร และคาดว่าจะตกอยู่ในพื้นที่ 200 ตารางเมตรจากจุดที่มีการติดตั้ง ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอกมีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม
และยังมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี รวมทั้งมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีดังกล่าวผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 28 ปี
หลังเกิดเหตุบริษัทฯ ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงานตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมาและจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจำนวน 50 คน โดยมีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติให้การสนับสนุนปฏิบัติการค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหายโดยไม่พบวัสดุกัมมันตภาพรังสีที่สูญหายอยู่ภายในโรงงาน จึงสามารถสรุปได้ว่าอาจมีการนำวัสดุกัมมันตภาพรังสีออกนอกโรงงานไปแล้ว
“ ในวันนี้ชุดปฏิบัติการตรวจสอบวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย โดยเจ้าหน้าที่จาก อ.ศรีมหาโพธิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทฯ ได้ออกค้นหาและตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีใน อ.ศรีมหาโพธิ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงเช่น ร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อเศษโลหะมือสอง เป็นต้น ซึ่งหากวัสดุกัมมันตรังสียังอยู่ในสภาพเดิมก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ”
แต่หากมีการถอดประกอบ หรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มออกจนทำให้วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเปลือยเปล่า ก็จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุประมาณ 1-2 เมตร และหากมีการสัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีโดยตรงก็จะทำให้ผู้สัมผัสเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผลไหม้บริเวณที่สัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีได้
“ จากการประเมินสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง ดังนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม” ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการและบริษัทฯ เตรียมความพร้อมรับมือกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหายโดยเบื้องต้นได้สั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการยกระดับภัย 1 เป็นระดับ 2 ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2564 – 2570
โดยให้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 จ.ปราจีนบุรี เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสี และให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน ที่อาจได้รับอันตรายจากวัสดุกัมมันตรังสี
รวมทั้งดูแลการจ้างงานในกรณีมีการหยุดการทำงาน ตลอดจนสิทธิสวัสดิการของพนักงานในระหว่างที่หยุดการทำงาน ในระหว่างตรวจหาและแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย รวมทั้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ประสานโรงพยาบาล เตรียมความในการบำบัดรักษาผู้ป่วย ที่อาจได้รับผลกระทบจากวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหาย
ขณะที่บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ยังยืนยันว่าจะมอบเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท ให้กับผู้ชี้เบาะแสจนสามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหายกลับมาได้ โดยสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0858350190 (ตลอด 24 ชั่วโมง)