เช้านี้ที่หมอชิต – เกิดดรามา เมื่อโรงเรียนใช้รถบรรทุก 18 ล้อ ขนเด็กนักเรียนเข้าค่ายลูกเสือ มีผู้พบเห็นถ่ายภาพมาโพสต์เฟซบุ๊กจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ผู้สื่อข่าวลงไปตรวจสอบเรื่องนี้ ผอ.โรงเรียน ตอบสั้น ๆ ว่า ประหยัด และฝึกความอดทน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Bow Jaa ได้โพสต์คลิปในเฟซบุ๊กในกลุ่มประเทศเมืองคอน ซึ่งภายในคลิปเป็นภาพรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มีนักเรียนชาย-หญิง สวมชุดลูกเสือ-เนตรนารี กว่า 100 คน อยู่ภายในรถบรรทุก 18 ล้อ พร้อมข้อความว่า ระวัง อันตราย ขึ้นลงรถแบบไหน? ผู้ปกครองกลัว ผอ.ว่าไง ทำไมไม่เอารถทัวร์ ผู้ปกครองเห็นภาพนำเด็กขึ้นรถ 18 ล้อพ่วง อันตรายมาก โรงเรียนพื้นที่ อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช พาเด็กไปเข้าค่ายลูกเสือที่ จังหวัดตรัง กลัวจะเกิดอันตรายกับลูกหลาน 3 คืน 4 วัน
ทำให้มีคนเข้ามาคอมเมนต์ และวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ต่างแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วย บางคอมเมนต์ก็ว่าทำไมไม่ใช้รถทัวร์ บ้างก็ว่าอันตราย ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบที่ค่ายลูกเสือเฉลิมพระเกียรติทะเลสองห้อง ตำบลบางดี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เพื่อไปสอบถามถึงสาเหตุที่ใช้รถบรรทุก 18 ล้อพ่วง บรรทุกเด็กนั้น
นายสมหมาย สุดถนอม ผู้อำนวยการโรงเรียนของเด็ก ๆ ในข่าว และผู้ดูแลค่ายลูกเสือ ชี้แจงสั้น ๆ ว่า ที่ได้นำรถบรรทุก 18 ล้อพ่วง บรรทุกเด็กนักเรียนจำนวนกว่า 100 คน จากโรงเรียนวัดลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช มาเข้าค่ายที่ศูนย์ลูกเสือนานาชาติทะเลสองห้อง ที่จังหวัดตรัง เหตุผลที่ไม่ใช้รถทัวร์ในการขนส่งเด็กนักเรียน เนื่องจากการใช้รถทัวร์ต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก และการที่ตนเองทำนั้นถือว่าตนเองบริสุทธิ์ใจ และรถบรรทุก 18 ล้อพ่วง ที่ใช้บรรทุกเด็กนั้นก็เป็นรถของตัวเองที่ใช้บรรทุกปาล์มน้ำมัน มั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ ส่วนการขึ้น-ลงก็มีบันไดให้ และไม่ได้เดินทางระยะไกล ระยะทางจากโรงเรียนมาที่ค่ายลูกเสือเพียง 26 กิโลเมตร และตนเองเชื่อว่ามีความปลอดภัยมากกว่าขนเด็กด้วยรถกระบะ ซึ่งใครจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันยังไงก็แล้วแต่ ต่างคนต่างคิด ตนเองเป็นคนออกค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เนื่องจากไม่มีงบประมาณในการจัดขนส่งเด็ก และก่อนหน้านี้ได้แจ้งเด็กและผู้ปกครองให้ทราบแล้วด้วยว่าจะนำเด็กไปด้วยรถบรรทุก 18 ล้อพ่วง และขากลับก็ยังยืนยันว่าจะขนเด็กด้วยรถ 18 ล้อพ่วง ซึ่งผู้ปกครองก็รับทราบ และยังมองอีกมุมว่าได้เป็นการฝึกความอดทนของลูกเสือ รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเบื้องต้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบแล้วด้วย
ส่วนเด็ก ๆ ที่ขึ้นรถบรรทุกมาค่ายลูกเสือซึ่งมีตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และชั้นมัธยม ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกยากลำบากใด ๆ ต่างสนุกสนานกับกิจกรรมชุมนุมค่ายลูกเสือ บอกว่าอดทนได้ เพียงแต่ผู้ใหญ่อาจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเท่านั้นเอง
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Bow Jaa