ครูสอนศาสนาคริสต์สุดทน โดนหาเรื่องไม่จบไม่สิ้น ใช้มีดพร้าฟันคอหนุ่มโชเฟอร์รถบรรทุกคอหวิดขาดดับสยองข้างถนนที่ตรัง ปิดบัญชีแค้นนานแรมปี แล้วเข้าโบสถ์เพื่อล้างบาป ก่อนเดินทางเข้ามอบตัวกับ ตร.
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 64 ร.ต.อ.ชัยสิทธิ์ มณีกาญจน์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ริมถนนสายบางสัก-นาเกลือ หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.นาเกลือ เส้นทางเข้าท่าเรือน้ำลึก อบจ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.กันตัง กำลังชุดสืบสวน สภ.กันตัง และ ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.กันตัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง อ.กันตัง รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทั้งสองฟากถนน พบชาวบ้านนับร้อยมายืนมุงดูเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นตรงหน้า เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกกั้นออกห่างเพื่อตรวจสอบ พบร่างของ นายวรรณพล อรรถสุวรรณ์ หรือเบียร์ อายุ 39 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.นาเกลือ อ.กันตัง จ.ตรัง อาชีพขับรถบรรทุกขนส่งน้ำมัน นอนตายอยู่ในคูริมถนนใกล้หน้าบ้านที่เกิดเหตุ สภาพนอนหงายหน้าจมกองเลือด ชันสูตรพลิกศพมีบาดแผลถูกฟันเป็นแผลเหวอะหวะ เข้าที่ต้นคอด้านซ้ายทำให้ลำคอเกือบขาด มีเพียงผิวหนังที่ติดอยู่ บาดแผลยาวไปจนถึงปาก หลอดลมขาด และบาดแผลที่นิ้วมือกลาง ห่างจากศพไปประมาณ 2 เมตร บนถนนริมไหล่ทางพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีน้ำเงิน ทะเบียน ขคล 908 ตรัง ทราบเป็นของผู้ตายจอดอยู่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.กันตัง
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน นายสหรัฐ ศิริรัตน์ หรือแมว อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ อาชีพทำสวนปาล์มน้ำมัน และเป็นครูสอนศาสนาคริสต์ ได้ประสานติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ตร. ที่ สภ.กันตัง โดยมี พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง รับมอบตัวและสอบปากคำด้วยตัวเอง จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุจริง ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้มาหาเรื่อง และชอบรังควานอยู่เป็นประจำ ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาอะไรคาใจกันมาก่อน รวมทั้งที่ผ่านมาผู้ตายเคยถีบรถ จยย. และขับรถปาดหน้าตนอยู่บ่อยครั้ง และเคยปล่อยข่าวว่า ตนเองเป็นคนปล่อยลมยางรถบรรทุกที่ผู้ตายใช้ทำงานอยู่
ผู้ต้องหาให้การอีกว่า กระทั่งในวันนี้ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนเองขับรถ จยย.คันดังกล่าวเพื่อที่จะไปสวน ปรากฏว่าผู้ตายได้ขับรถ จยย.มาตัดหน้า และหาเรื่องรังควานเช่นเดิม พร้อมทั้งมีท่าทีเหมือนจะชักอาวุธออกมาจากตัว ตนจึงเกิดความโมโห บันดาลโทสะใช้มีดพร้าที่พกติดตัวเพื่อนำไปเข้าสวน ฟันเข้าไปจำนวน 3 ครั้ง ก่อนจะขับรถหลบหนีไปโบสถ์คริสตจักร เพื่อทำการล้างบาปสำนึกผิดต่อพระผู้เป็นเจ้าตามความเชื่อ ก่อนประสานเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถาม นางแตง (นามสมมุติ) เจ้าของบ้านจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตนเองรู้จักกับคนตายแต่ไม่ค่อยได้พบเจอกัน ส่วนผู้ก่อเหตุก็รู้จักกันแต่ไม่ได้สนิท แต่สำหรับคนก่อเหตุเป็นคนดีมาก เป็นที่รักของคนในชุมชนเกือบทุกหลังคาเรือน ชอบนำอาหาร ผลไม้ และสิ่งของต่างๆ มาแบ่งปันเป็นประจำ เมื่อมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน และในทุกๆ เช้าๆ ผู้ก่อเหตุจะขับรถไปทำสวนผ่านหน้าบ้านตนเป็นประจำ ในขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน แต่ลูกชายอยู่ โดยเล่าให้ฟังว่าขณะอยู่ในบ้านได้ยินเสียงดังอยู่บนถนนว่า “ฟันให้ตาย” อยู่หลายครั้ง ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้าน นายเพชร อรรถสุวรรณ์ อายุ 75 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ หลังจากที่ลูกชายกินข้าวเสร็จ ก็ขับรถออกมาจากบ้าน เพื่อที่จะออกมาซื้อของที่ร้านค้า โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ส่วนตนเองอยู่ที่บ้านก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านว่าลูกชายถูกฆ่าเสียชีวิต จึงเดินทางมาดู ก็ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใด แต่ที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างตนขอปฏิเสธแทนลูกว่าไม่จริง
ขณะที่แนวการสืบสวนสอบสวน ทราบประวัติผู้ตายเพิ่งตกงานจากเป็นลูกจ้างขับรถบรรทุกขนส่งน้ำมัน และปัจจุบันได้มายึดอาชีพเป็นลูกจ้างร้านซ่อมรถ จยย. โดยชาวบ้านในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายมีอาการลักษณะคล้ายคนมีอาการมึนเมา ผิดปกติ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และอยู่ในระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
