เช้านี้ที่หมอชิต – เจ้าของซุ้มไก่ชนที่จังหวัดตรัง ประสบปัญหาหลังโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ไก่ไม่สามารถออกสนามได้ หันมาเพาะพันธุ์ลูกไก่ชนขาย ส่งให้ลูกค้าต่างประเทศ สร้างรายได้ให้ครอบครัว
นายสุชาติ ด้วงสุข อายุ 50 ปี เจ้าของซุ้มไก่ชนรายใหญ่ ในตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เปิดฟาร์มไก่ชนและเพาะพันธุ์ลูกไก่ชนขาย แต่ตอนนี้ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไก่ชนมีเวลาพักยาวนาน นายสุชาติ จึงเกิดไอเดียจับคู่พ่อพันธุ์ไก่ชนมาผสมกับแม่ไก่บ้าน เพื่อเร่งผลิตลูกไก่ชนพันธุ์ดีออกมารองรับการส่งสัญญาณเปิดประเทศของรัฐบาล หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง และมีการนำไก่ชนพ่อพันธุ์มาลงสนามซ้อม เพื่อฝึกความอดทนและความแข็งแกร่ง
โดยไข่ไก่ชน ใช้เวลาเพาะฟักประมาณ 21 วัน จึงจะได้ลูกไก่ชนเหลือรอดร้อยละ 70-80 ซึ่งต้องใช้เวลาเลี้ยงต่อไปอีก 10-11 เดือน จึงจับขายในราคาตัวละ 3,000-6,000 บาท แล้วแต่รูปร่างลักษณะที่แข็งแรง และความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ปรากฏว่าเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา มีลูกไก่ขนาดต่าง ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก และมีพ่อพันธุ์ไก่ชนอีกกว่า 40 ตัว ส่วนตัวที่แพงที่สุดในเวลานี้ คือ ไก่ชนที่ลงแข่งมาแล้ว 12 ครั้ง ชนะ 10 ครั้ง แพ้ 2 ครั้ง ทำให้มีค่าตัวสูงถึง 15,000 บาท ส่วนอีกตัว อายุ 15 เดือน ราคา 10,000 บาท แต่หากเป็นช่วงเปิดประเทศ ไก่ชนทั้งหมดจะมีราคาอัปขึ้นไปอีกเท่าตัว โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และกัมพูชา สั่งของเข้ามามาก ซึ่งช่วงนี้ต้องใส่กล่องพัสดุและขายผ่านทางออนไลน์ หรือผ่านพ่อค้าคนกลาง แต่ก็ยังสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 บาทต่อเดือน
