เช้านี้ที่หมอชิต – ที่ จังหวัดตรัง ชาวสวนยางพาราปรับตัวช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงยางพาราและปาล์มน้ำมันราคาตก หันมาปลูกพืชทางเลือกที่มีตลาดรองรับ รวมกลุ่มกันปลูกมะเขือพวงไร้หนาม ส่งโรงงานทำมะเขือพวงแปรรูปส่งขายต่างประเทศ
ยางพาราและปาล์มราคาตก เกษตรกรในจังหวัดตรังจึงพยายามมองหาพืชทางเลือกระยะสั้น เพื่อนำมาปลูกแซมในสวนของตนเอง โดยเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอห้วยยอด และอำเภอวังวิเศษ ได้รวมกลุ่มกันหันมาปลูกมะเขือพวงไร้หนามแซมในสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน ใช้เวลาปลูก 4 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ โดยเก็บได้ทุก ๆ 15 วัน
นางกัณหา ทองอ่อน เปิดเผยว่า ตนเองปลูกไว้ทั้งหมดประมาณ 20 ไร่ แบ่งเป็นแซมในสวนยางพาราประมาณ 14 ไร่ และแซมในสวนปาล์มน้ำมันประมาณ 6 ไร่ ซึ่งมะเขือพวงไร้หนามปลูกง่าย เป็นพืชระยะสั้นเพียง 4 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ และอยู่ได้นานประมาณ 4 ปี ตัดได้ทุก ๆ 15 วัน ครั้งละกว่า 200 กิโลกรัม โดยตัดส่งขายตลาดทั่วไป ครั้งละประมาณ 10-15 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 30-50 บาท และส่งไปยังโรงงานที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทางกลุ่มได้ทำ MOU กับทางโรงงาน
มะเขือพวงไร้หนามปลูกง่าย ติดผลเร็ว ให้ผลดก มีรสชาติดี มีลำต้นแข็งแรง ต้านทานโรคทางดินดี รสชาติดีกว่ามะเขือพวงทั่วไป และเป็นที่ต้องการของตลาด ที่ผ่านมามีการรวมกลุ่มกัน ไปศึกษาดูงานที่โรงงานในจังหวัดขอนแก่น จึงเห็นตัวอย่างแปลงปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ 100% ทำเพียงแค่ 2 ปี เกษตรกรก็ปลดหนี้ได้
ขณะเดียวกันทางกลุ่มกำลังหาแนวทางส่งเสริมเพิ่มพื้นที่การปลูก และทำโครงการเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ เพื่อทำโรงอบแห้งมะเขือพวง เพราะมะเขือพวงไร้หนามมีตลาดกว้าง ถือเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกที่สำคัญ เป็นที่นิยมในต่างประเทศ







