จี้รัฐรื้อ’ปาล์มน้ำมัน’ทั้งระบบ หวังเกษตรกรมีรายได้อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาโครงสร้างราคาการตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์ม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปาล์มน้ำมัน) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช จ.กระบี่ และ จ.ตรัง เพื่อศึกษาระบบโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าราคารับซื้อปาล์มน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น ประมาณ 5 -7 บาท/กก. ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ยังคงเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ในแต่ละปีเท่านั้น เนื่องจากในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.64 ยังคงเป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดน้อย และจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.64

นายสัณหพจน์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังพบว่า ในกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์มดิบของโรงงานยังไม่ตรงตามเกณฑ์ที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดไว้ในการออกใบอนุญาตรง ที่กำหนดให้โรงงานสกัดปาล์มน้ำมันดิบ จะต้องสกัดน้ำมันจากผลปาล์มทลายให้ได้ไม่ต่ำกว่า 18% แต่ปรากฏว่าปัจจุบัน ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีการสกัดได้จริงเพียงแค่ 13-15% เท่านั้น โดยอ้างว่า ผลผลิตปาล์มที่รับซื้อจากเกษตรกรนั้นไม่ได้คุณภาพ

“สำหรับเกณฑ์น้ำมันดิบคุณภาพ 18% ดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง เนื่องจากหากไม่ได้ผลผลิตคุณภาพตามเกณฑ์ สามารถเพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรงงานได้ในทันที โดยกลไกการอ้างการผลิตน้ำมันไม่ได้คุณภาพ เนื่องจากโรงงานเลือกกดราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรในราคาถูก ประมาณ 2-3 บาท /กก.” นายสัณหพจน์ กล่าว

นายสัณหพจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนตั้งข้อสังเกต คือขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งผลกระทบต่อราคาปาล์มน้ำมันของเกษตรกร โดยขบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาด เปรียบเทียบระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และในประเทศต่างกันประมาณ 8 บาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน จะต้องเข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างโปร่งใส และจริงจัง ทั้งนี้ระบบกลไกปาล์มน้ำมันดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง ทำให้มีการกดราคารับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกร โดยตนขอเสนอให้ราคารับซื้อปาล์มน้ำมันอยู่ในมาตรฐานราคาไม่ต่ำกว่า 4-5 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาที่พี่น้องเกษตรกรสามารถอยู่ได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลควรส่งเสริมการพัฒนาระบบการผลิต การปลูกปาล์มน้ำมันของพี่น้องเกษตรกร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรชาวสวน.