เผยแพร่:
ปรับปรุง:
ป้อมพระสุเมรุ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ – ไม่ช้า ไม่เร็ว สิ้นเดือน มี.ค.ต่อต้นเดือน เม.ย.
น่าจะได้เห็นโฉมหน้า “ครม.ประยุทธ์ 2/4” กับคิวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามไฟต์บังคับที่ “3 รัฐมนตรี กปปส.” เจอบิ๊กเซอร์ไพร์ส “ตกสวรรค์” จากคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำคุก จากคดีชุมนุมการเมืองกลุ่ม กปปส. เมื่อปี 2556-2557
ทั้ง “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ, “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ “นายหัววอน” ถาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคม
สำหรับรายสุดท้าย “ถาวร” เป็นโควตาของ “ค่ายสะตอ” พรรคประชาธิปัตย์ ที่ว่ากันว่ามีถึง 4 แคนดิเดตช่วงชิง “ผู้ใหญ่ตาล” สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ที่รอดตัวจากคดี กปปส., เจือ ราชสีห์ ส.ต. (สอบตก) จาก จ.สงขลา ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คมนาคม เด็กสร้างของ “ถาวร” เบียดบี้กับ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ-ประกอบ รัตนพันธ์ 2 ส.ส.มากประสบการณ์ จาก จ.นครศรีธรรมราช
ที่หลุดไปอย่างน่าเสียดายรายของ อันวาร์ สาเเละ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่เดิมอยู่ใน Waiting List เบอร์ 1 ของ “ค่ายสะตอ” ดันออกงิ้วสวนมติพรรค กด “งดออกเสียง” ให้รัฐมนตรีทุกคนในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา รวมทั้ง “นายกฯ ตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย เว้นแค่ นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เพียงคนเดียว
ตัดอนาคตที่จะได้เติบใหญ่ในรัฐบาลชุดนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย
ดูทรงแล้วทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และ “ค่ายเซราะกราว” พรรคภูมิใจไทย น่าจะยังคงรักษาโควตาเดิม ไม่เพิ่มไม่ลดกันไว้ได้ อาจมีสูตร “ยื่นหมูยื่นแมว” สลับโควตาแลก “รมช.” ของ 2 พรรคกันในบางกระทรวง เพื่อให้การบริหารเป็นเอกภาพเท่านั้น
หันมาดูที่ “ค่ายหลวงพ่อป้อม” พรรคพลังประชารัฐ กับ 2 เก้าอี้ที่ว่างลง ที่เรียกว่า “ศพยังไม่ทันเน่า แมลงวี่แมลงวันบินกันว่อน” เพราะหลังจากคำพิพากษาจำคุก “ณัฏฐพล – พุทธิพงษ์” ออกมา ก็มีความเคลื่อนไหวภายในพรรคแบบฝุ่นตลบอบอวล
ด้วยเดิมที “ครูตั้น-ณัฏฐพล” ที่มีชื่อติดโผถูกซักฟอก จนได้แต้ม “อมบ๊วย” น้อยกว่าชาวบ้านชาวช่อง ก็เป็นเป้าหมายของหลายก๊วนในพรรคที่ต้องการเขย่าให้ร่วงจากเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ อยู่แล้วพอมีตัวช่วยให้ “ไม่ได้ไปต่อ” จากคำพิพากษาศาลในคดีชุมนุมทางการเมืองกลุ่ม กปปส.
ทำเอาเบอร์ใหญ่-เบอร์น้อยในพรรคลูบปากหวานเจี๊ยบกันเลยทีเดียว
ไม่ทันไร “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ออก “ประกาศิต” ทันทีว่า “ไม่มีโควตา กปปส. มีแต่โควพรรคพลังประชารัฐ” หลังถูกถามถึง 2 เก้าอี้รัฐมนตรีของ “ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์” ที่ว่างลง
และน่าจะเป็นที่มาของคำตัดพ้อ “หนักกว่าที่คิด” ของ “เสี่ยตั้น” และ “หมดแรง หมดใจ สิ่งที่ทำมันไร้ค่า ไร้ราคา” ของ “เสี่ยบี” นั่นเอง
การดึงโควตาเก้าอี้ 2 รัฐมนตรีเข้าสู่ “โควตากลาง” เพื่อให้ง่ายต่อการเกลี่ย “ที่นั่ง” หมุนเวียนรักษาดุลอำนาจภายในรัฐบาล “ไม่ใช่เรื่องผิด” แต่การไม่ดูดำดูดีคนที่ปูพรมแดงให้ “ขุนทหาร” เข้า “ฮอส” ทำรัฐประหาร 22 พ.ค.57 ก็ “อำมหิต” ไม่น้อย
จากที่เคยคิดว่าเป็น “หุ้นส่วน” กับ “ขุนทหาร” สุดท้ายกลายเป็นแค่ “นั่งร้าน” ไร้ค่า-ไร้ราคา
เมื่อ “ลุงป้อม” ทุบโต๊ะเปรี้ยงเช่นนั้น “พี่ตู่” ที่นิยมชอบพอกับ “น้องตั้น” มายาวนานยังช่วยอะไรไม่ได้
ความเข้มขลังของ “หลวงพ่อป้อม” ยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อมี “มือดี” จัดแจงบล่ารายชื่อ ส.ส.พลังประชารัฐได้กว่า 90 ชีวิต เพื่อยื่น “โนติส” ไปยัง “นายกฯตู่” ให้พิจารณาเฉพาะ “คนใน” เข้าร่วม ครม.ประยุทธ์ 2/4
บังคับกลายๆ ว่า ห้ามหยิบ “คนนอก” มาฟาดชิ้นปากมันนั่นเอง
จนมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า “บิ๊กตู่” ไม่พอใจอย่างแรง เหมือน “ถูกสั่ง” จาก ส.ส.พลังประชารัฐ และก็ยังมีข่าวเนืองๆ ว่า จะใช้สิทธิ์ในฐานะนายกฯ เชิญ “คนนอก” เข้ามาเป็นรัฐมนตรี โดยเฉพาะเก้าอี้ “เสมา 1” รมว.ศึกษาธิการ เพื่อให้สานต่องานปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ
ใครๆ ก็รู้ว่า เก้าอี้ “เสมา 1” นั้นมีความหมายกับ “บิ๊กตู่” มากน้อยแค่ไหน
รวมทั้งไม่สนใจ “โควตาพรรค” อะไรทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นอำนาจนายกฯ แต่เพียงผู้เดียว
ข่าวกระหึ่มถึงขั้นว่า งานนี้ “ประยุทธ์-ประวิตร” แตกคอกันอย่างแรง แล้วยังพาดไปถึง รมว.มหาดไทย ของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่เสียงจาก ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ เชียร์ให้ “ลุงป้อม” มายึดมาครอบครองด้วย
ที่ว่าแรง ก็แรงถึงขั้นหยิบออปชัน “ยุบสภา” ขึ้นมาคุยกันด้วย
แต่อย่างที่ทราบ “พี่น้อง 3 ป.” แนบแน่นกันสุดขั้วหัวใจ ขัดกันขนาดไหน ก็เคลียร์ใจกันลงตัวไม่ยาก
อีกทั้งยามนี้สถานการณ์การเมืองเป็นใจแทบทุกอย่าง จะแตกหักให้สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาลไปทำไม เพราะฉะนั้น อย่ามา “เสี้ยม” เสียให้ยาก
จากที่ “บิ๊กตู่” เคยมีท่าทีหนักแน่น “บิ๊กตู่” ก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เดิมบอกว่าทุกอย่างเป็นอำนาจของตัวเอง ก็กลายเป็นว่า การปรับ ครม.เป็นเรื่องของพรรคและเรื่องของโควตาพรรคที่จะเสนอขึ้นมา
ก่อนตบท้ายเสียงดังหนักแน่นว่า “ไม่มีคนนอก จบ”
เท่ากับว่า ค่ายพลังประชารัฐ ในร่มเงาของ “หลวงพ่อป้อม” ได้ลาภ 2 เด้ง ทั้งได้ 2 เก้าอี้เสนาบดีมาฟรีๆ แล้วยังล็อกไว้ให้ “คนใน” เสร็จสรรพ
แต่ก็ดูจะไม่หมูอย่างที่คิด
เป็นธรรมดาของช่วง “แบ่งสมบัติ”โดยเฉพาะในทางการเมือง ที่ย่อมมี “นักวิ่ง” ให้ฝุ่นตลบอบอวล ในอารมณ์ “เก้าอี้ดนตรี” ที่มีว่างแค่ 2 ที่แต่คนอยากนั่ง “โอเวอร์ดีมานด์”
ก็เลยปรากฎชื่อบุคคลจากกลุ่มต่างๆเข้าประกวด อย่างน้อยๆ 5 ราย ตั้ง ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร จาก “ก๊วนผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตามมาด้วย “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี ผู้เคยมี “สัญญาใจ” กับ “หัวหน้าป้อม” ตั้งแต่ปรับ ครม.งวดก่อน, ”เสี่ยต้น” สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี จาก “กลุ่มสามมิตร” และ “เสี่ยวิทย์” ชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม. จาก “ภาค กทม.” ที่ว่ากันว่าเป็นตัวแทนของ “ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์”
พ่วงด้วย “มาดามเหน่ง” ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว หลาน “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง ผู้มากบารมีแห่งพรรคเพื่อไทย ที่แว่วว่า “ลุงป้อม” หยิบชื่อไปชงเอง
5 แคนดิเดตกับ 2 เก้าอี้ งานนี้คงเล่น “เก้าอี้ดนตรี” กันสนุก
แล้วยังมีโจทย์หินที่ “กลุ่ม 3 ช.” โดย “ผู้กองธรรมนัส” พร้อมด้วย “เฮียสันติ” สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง – “มาดามแหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน วาดฝันจะได้อัปเกรดขึ้นคร่อมเก้าอี้ “ว่าการ” ช่วงปรับ ครม.งวดนี้
รูปกานณ์แบบนี้ ถ้าเอาอย่างที่ทุกคนต้องการกันหมด มีหวังยุ่งชิบ “ลุงตู่” ก็เลยเลือกเพลย์เซฟ เอาแค่ “ปรับเล็ก” เท่าที่จำเป็นไปก่อน ส่วนจะยื่นหมูยื่นแมวกันยังไงก็ต้องไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม
จึงมีแนวโน้มสูงว่า “ก๊วน 3 ช.” คงต้องอยู่โยงเก้าอี้ไปอีกงวด ด้วยเก้าอี้ “ว่าการ” มีไม่พอความต้องการ ที่เหลือก็ดึงคนใหม่เข้ามา “เติมเต็ม”
จับยามสามตาดูโหงวเฮ้งแล้ว “ตรีนุช” ที่พกดีกรี ส.ส. 5 สมัย ดูจะมีแววสดใสกว่าเพื่อน ด้วยมี “คะแนนจิตพิสัย” จากการที่ “ลุงป้อม” คุ้นเคยกับตระกูลเทียนทอง มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยประจำการเป็นทหารโซน “บูรพาพยัคฆ์” ที่สำคัญ “ลุงป้อม” เคยออกปากจะให้เป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่ตอนตั้งรัฐบาลใหม่ๆ แต่ตอนนั้นอะไรๆ ยังไม่ค่อยลงตัว
อีกรายน่าจะเป็น “ชัยวุฒิ” ที่นอกเหนือ “สัญญาใจ” และความเป็น “มือทำงาน” ที่เข้าได้กับทุกกลุ่ม ยิ่งกับกับ “ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์” ก็แนบแน่นกันดี แล้วยังมี “แรงหนุน” จากกลุ่มทุนพลังงานอีกด้วย
ที่้สำคัญ หากนายกฯ คิดจะเยียวยา “ก๊วน กปปส.” ไม่ให้ดูใจดำเกินไป การเลือก “ชัยวุฒิ” แล้วปะป้ายว่าเป็น “ตัวแทน” ของ “ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์” ก็ตอบโจทย์มากกว่ารายอื่นๆ
อีกไม่นานก็คงได้เห็นหน้าคร่าตา “ครม.ประยุทธ์ 2/4” ว่าตรงตามโผที่ออกกันมาแบบรายวันหรือไม่
แต่ที่ไม่ต้องลุ้น ก็คงเป็นบารมี “หลวงพ่อป้อม” ที่ยังคงเข้มขลัง เป็นเสาหลักรัฐบาลไปอีกนาน.