ที่สวนพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน เลขที่ 55/2 ม.7 เขาเพดาน ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง นายกิตติหรือติ ศิริรัตนบุญชัย อายุ 41 ปี เกษตรกรหนุ่มรุ่นใหม่อดีตพนักงานบริษัทที่กรุงเทพฯตัดสินใจกลับบ้านเกิดมาดูแลพ่อ และหันมาทำเกษตรด้วยการพลิกพื้นที่จากการปลูกยางพารามาปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ในเนื้อที่ 2 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 10 ไร่ และในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูการเก็บผลผลิต ได้นำผู้สื่อข่าวเยี่ยมชมแปลงพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ซึ่งปลูกมาเป็นระยะเวลา 6 ปีแล้ว ซึ่งพบว่าผลผลิตพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนที่ปลูกภายในมีความสมบูรณ์ และเมล็ดใหญ่ลูกดกเต็มต้น พร้อมสาธิตการให้น้ำและเก็บเกี่ยวผลผลิต พร้อมนำไปแปรรูป โดยจะเน้นขายออนไลน์เป็นหลัก เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโฮมเมดทั่วประเทศ ได้รู้ถึงพริกไทยคุณภาพพันธุ์ปะเหลียนของจังหวัดตรัง ที่มีความเผ็ด ร้อน หอมมีเอกลักษณ์ หลังจากนั้นได้นำไปชมโรงเรือนที่เป็นระบบปิด และต้นพันธุ์พริกไทยปะเหลียน นอกจากนี้ในแปลงยังมีการทดลองปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนกับเสารั้วบ้าน เสาหลักไม้แก่น ต้นหมากและยังมีแบบพริกไทยพุ่ม เพื่อทดลองปลูก ซึ่งมีความตั้งใจที่จะให้แปลงพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนแห่งนี้เป็นแปลงที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรรุ่นใหม่ที่ต้องการปลูกพริกไทยที่ไม่ต้องลองผิดลองถูกเป็นอาชีพเสริมที่สามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรที่ปลูกยางพาราเป็นหลัก
ด้านนายกิตติ ศิริรัตนบุญชัย บอกว่า ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานบริษัทอยู่ที่กรุงเทพฯได้กลับมาอยู่บ้านดูแลพ่อ หลังจากนั้นพื้นที่ตรงนี้เคยปลูกยางพารามาก่อนก็ได้มีการปรับพื้นที่มาปลูกพริกไทยปะเหลียนและพืชชนิดอื่นๆผสมด้วย สำหรับการปลูกพริกไทยปะเหลียนเกิดจากความคิดที่ว่าเรามองว่าพริกไทยในอดีตเป็นพืชที่มีคุณค่ามาก และเราเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่เราก็ต้องการนำคุณค่าในอดีตกลับมาทำให้มันมีคุณค่าขึ้นมาอีกครั้ง โดยใช้พื้นที่ 2 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 10 ไร่ ในการปลูกพริกไทยปะเหลียน จำนวน 800 กว่าหลัก มีอายุ 3-6 ปี ซึ่งมีการแบ่งเป็นแปลงแม่พันธุ์
และมีการจำหน่ายต้นพันธุ์ 2 ขนาด ไซส์ต้นใหญ่ ต้นละ 80 บาท และไซส์ต้นเล็ก ต้นละ 40 บาท ซึ่งเราใช้ลำต้นในการปักชำทั้งหมด ในส่วนของเมล็ดพริกไทยดำเกรดพรีเมียมกิโลกรัมละ 400 บาท และเมล็ดพริกไทยขาว กิโลกรัมละ 1,000 บาท ซึ่งเหมาะที่เกษตรกรจะปลูกเป็นอาชีพเสริม โดยผลผลิตพริกไทยจะออกปีละครั้ง ในช่วงต้นปีหรือช่วงหน้าแล้ง ทั้งนี้ พริกไทยปลูกไม่ยาก ไม่ต้องดูแลมากนัก เนื่องจากบ้านเราเป็นเขตร้อนชื้น ปัจจัยหลายอย่างเอื้อต่อการปลูกพริกไทย มีน้ำ มีลม สภาพอากาศเอื้อต่อการปลูกพริกไทย เพียงแต่เราต้องเข้าใจเรื่องการปลูกเท่านั้น
ส่วนผลผลิตต่อปีที่ผ่านมา จำนวน 30 หลักได้ผลผลิตเป็นพริกไทยแห้ง จำนวน 105 กิโลกรัม โดยพริกไทย 1 ต้น เราสามารถเก็บผลผลิตพริกไทยแห้งเฉลี่ยประมาณ 4-5 กิโลกรัม สำหรับการทำพริกไทยขาว เราต้องใช้พริกไทยที่เป็นสีแดง หรือพริกไทยสีแดงสุกจัด คัดเฉพาะที่เป็นสีแดงออกมา แช่น้ำไว้ 1 คืน และขยี้เปลือกออกล้างน้ำ และนำมาตากแดด ซึ่งผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน ในส่วนพริกไทยดำก็นำมาล้างจนสะอาดแช่น้ำเกลือ 20 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อโรคบางอย่าง และล้างน้ำอีกรอบ หลังจากนั้นนำมาตากในโรงเรือนที่เป็นระบบปิด เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้ามาและเก็บทุกเย็นไม่ให้มีความชื้นในพริกไทย
สำหรับรสชาติของพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนจะเผ็ดร้อน หอม มีเอกลักษณ์ของพริกไทยในตัว ทั้งนี้ช่องทางในการจำหน่ายตอนนี้จะเน้นขายทางออนไลน์ส่งทั่วประเทศ จำหน่ายทั้งต้นพันธุ์และเมล็ดพริกไทยแห้ง มีออเดอร์แน่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารประเภทโฮมเมด หรือพรีเมี่ยม
หากมีคนสนใจสามารถติดต่อโทร 0867026514 หรือทางเพจ สวนพริกไทยตรัง พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน หรือสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมสวนได้ เดินทางจากตัวเมืองตรังถนนสายตรัง-สิเกา เมื่อมาถึงสามแยกต้นชด เลี้ยวขวามา 3 กิโลเมตร สวนจะอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 19 หรือเข้ากูเกิ้ลแม็พได้
นอกจากพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนแล้วก็จะมีพืชชนิดอื่นๆเช่น กาแฟ มะพร้าว มะนาว เสาวรส อีกด้วย
สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตรัง