พบมุกเมโลอีก 1 เม็ดของหนุ่มวัย 49 ที่ตรัง เผย ซื้อหอยโข่งมาทำกับแกล้มแล้วเจอเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เก็บไว้ว่าจะทำหัวแหวน พอมีข่าวเรื่องมุกเมโลจึงมั่นใจ 80% ว่าใช่แน่ บอกหากคนให้ราคาดีก็พร้อมขาย
ผู้สื่อข่าว จ.ตรัง รายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 45 บ้านป่าเตียว ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง นายวิรัตน์ แสนรักเลิศภักดี หรือ โกรัตน์ อายุ 49 ปี อาชีพเปิดร้านขายขนม เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้นำเอา มุกเมโล ขนาดเท่าไข่มุกทั่วไป มีลักษณะสีส้มอร่าม และเมื่อนำมาถูกแสงแดดกลับมีแสงสีส้มเข้มขึ้น โดยนำมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและดีใจ ท่ามกลางบรรดาญาติพี่น้องและเครือญาติ พร้อมด้วย นายคฑายุทธ์ อภิมหาธรรม หรือ ใหญ่แดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางเป้า เข้ามาดูและชื่นชม และแสดงความยินดีกันอย่างคึกคัก อีกทั้งมีชาวบ้านมาขอดูกันอย่างไม่ขาดสายในตลอดทั้งวัน
นายวิรัตน์ เล่าว่า ย้อนกลับเมื่อช่วงกลางปี 2562 ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปซื้อหอยโข่งทะเล จำนวน 4-5 ตัว ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองกันตัง ในราคา 100 กว่าบาท เพื่อจะนำมาทำกับแกล้มกินกับเพื่อนและครอบครัว โดยปกติตนเองชอบซื้อหอยโข่งมากินอยู่แล้วเป็นประจำ ก่อนจะนำมาต้มทั้งหมด เมื่อสุกก็นำมาหั่นหรือเฉือน พร้อมที่จะเอาไปรับประทาน แต่ปรากฏว่าในขณะหั่น 1 ใน 5 ตัวนั้น พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในเนื้อ โดยในขณะนั้นได้เอาออกมาดูกัน และนำไปเก็บตั้งไว้ตามปกติ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่คิดเพียงว่าเป็นมุกที่แปลกดี และจะเก็บเอาไว้ทำหัวแหวน เพื่อจะสวมใส่ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้นำออกมาดูอีกเลย
เจ้าของมุกเมโลที่ตรัง กล่าวต่อว่า จนกระทั่งระยะเวลาผ่านมา 2 ปี ปรากฏว่า ล่าสุดมีการนำเสนอข่าวว่า มีประชาชนพบมุกเมโล ซึ่งมีราคาสูง ตนจึงได้นำของตนเองไปเปรียบเทียบในภาพดูปรากฏว่ามีลักษณะเดียวกันทุกอย่าง จึงได้แจ้งนักข่าวเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่มีความรู้เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่อย่างไร แต่ตนเองมั่นใจว่าเป็นของแท้ 80% อย่างแน่นอน และพร้อมที่จะขายหากมีใครจะมาขอซื้อและตกลงกันในราคาที่พึงพอใจ ซึ่งก่อนหน้าที่ตนเองได้นำรูปมุกเมโลดังกล่าวไปโพสต์ลงในสื่อโซเชียล ปรากฏว่ามีคนมาขอซื้อในราคา 20,000 บาท แต่ตนเองไม่ขาย เนื่องจากเป็นราคาที่ต่ำจนเกินไป เพราะดูจากในข่าวมีราคาที่สูงมากกว่านั้นเป็นหลักล้านบาท ส่วนตัวก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก โดยหากขายได้จริงๆ ก็จะนำเงินส่วนที่ได้มาแบ่งกันในเครือญาติ
ส่วน นายคฑายุทธ์ หรือ ผู้ใหญ่แดง กล่าวว่า ตนเองสนิทชิดเชื้อกับครอบครัวนี้ เป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ก็ทราบมาตลอดว่าครอบครัวนี้มีมุกดังกล่าวอยู่ แต่คงคิดว่าเป็นมุกธรรมดาปกติทั่วไป จึงไม่ได้คิดอะไร เพราะเจ้าของก็บอกว่าจะนำไปทำหัวแหวน ก่อนที่จะมาทราบข่าวพร้อมกับทางเจ้าของว่า น่าจะเป็นมุกเมโล ส่วนตัวมองแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นของแท้ออย่างแน่นอน แต่อยากให้ทางหน่วยงานหรือคนที่มีความรู้เข้ามาตรวจสอบก่อน ส่วนคนในหมู่บ้านหลังจากทราบข่าวก็ได้เดินทางมาขอดู เพราะไม่ค่อยมีใครได้พบเห็นกัน หลังจากนี้ก็อยู่ที่เจ้าของตัดสินใจจะทำอย่างไรต่อกับมุกเมโลดังกล่าว.