อนิรุธ เจริญพิริยะศรัทธาพระในตำนาน – ไม่ว่าจะอยู่ในวงการใด แต่การที่บุคคลคนหนึ่งจะเก็บสะสมสิ่งที่ชอบ สิ่งที่รักหรือสิ่งที่ศรัทธา ที่เกิดขึ้นได้เสมอ ส่วนที่มาที่ไปของการเริ่มต้นนั้น อาจจะแตกต่างกันที่มีความชอบเป็นการส่วนตัว
แต่สำหรับ “อนิรุธ เจริญพิริยะ” หรือ “พี่ปาล์ม” จากเด็กต่างจังหวัดเข้ามากรุงเทพฯ แบบไม่มีอะไร เริ่มจากเป็นพนักงานจัดซื้อ ห้างเดอะมอลล์ มาเป็นผู้จัดการ กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่ม เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ทำป้ายโฆษณาและรับประสานงานธุรกิจต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จ มีเงินซื้อบ้านเลี้ยงพ่อแม่และครอบครัว ให้อยู่สุขสบาย
“พี่ปาล์ม” เป็นนักสะสมพระเครื่อง รักในพุทธศิลป์ ศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็นชาวจังหวัดตรัง พร้อมทั้งศึกษาตำนานพระกรุชั้นเยี่ยม พระสายเบญจภาคี มีความสนใจ พระเครื่องมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งเรียนจบเดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ พบผู้หลักผู้ใหญ่นักธุรกิจที่เก็บสะสมพระเครื่อง เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มีความประสงค์เก็บสะสมไว้บ้าง คือที่มาของการเริ่มต้น
“ผมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มีพระติดตัวมา 2 องค์คือ พระพิฆเนศโบราณ กับหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พิมพ์นะหัวเข่า กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ชีวิตทุกคนต้องเริ่มจากศูนย์ ลุ่มๆ ดอนๆ การดำเนินธุรกิจแต่ละครั้งก็จะมีหนี้ก้อนโต ผมจะอธิษฐานขอพรทุกครั้งก็ผ่านมาได้ด้วยดีทุกครั้ง ขอพรพระทำให้ผมปลดหนี้ภายใน 2 เดือน ก็เลยเชื่อพุทธคุณมาตลอด”
“พี่ปาล์ม”บอกเล่าว่า “ก่อนหน้านี้ผมชอบพระประเภทเหรียญ โดยเฉพาะเหรียญหลวงปู่ทวด เริ่มศึกษาซื้อเก็บสะสมไว้จำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น พระหลวงปู่ทวด 2497 เนื้อว่าน กระทั่งมาพบผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง มอบพระสมเด็จเลี่ยมทอง 1 องค์ ผมเริ่มศึกษาด้วยตัวเอง เปิดดูในยูทูบว่าพระสมเด็จแท้เป็นอย่างไร ศึกษาถึงเนื้อและมวลสารว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ก็ศึกษาจากหนังสือพระเครื่อง จนได้มาเจอผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ผมนำพระสมเด็จมาให้ดูปรากฏว่าถูกตีเป็นพระเก๊ ก็เลยแปลกใจทำไมถึงเก๊”
“เมื่อพระสมเด็จองค์ดังกล่าวเป็นพระเก๊ ทำให้เราอยากจะได้พระสมเด็จแท้สักองค์ จนได้พบผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคนกลางหาพระสมเด็จวัดระฆังหลังกากหมากให้ 1 องค์ หลังจากนั้นก็ได้พระซุ้มกอ จากนั้นก็ได้ พระหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม ยันต์ยุ่ง เนื้อตะกั่ว สุดหายากและพระชินราชอินโดจีน ฯลฯ”
“พี่ปาล์ม”บอกว่า ได้ศึกษาเพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศ วัดบวรนิเวศวิหาร ผมเกิดความสนใจอยากได้ มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมประสานด้านธุรกิจให้ ท่านมีพระกริ่งปวเวศอยู่องค์หนึ่ง บอกผมว่า ถ้าผมทำยอดให้เข้าเป้า จะให้บูชาพระกริ่งปวเรศในราคาที่ผมจับต้องได้ ภายในเวลา 10 วัน ผมสามารถทำยอด 9 หลักให้ได้ สุดท้ายก็ได้ครอบครองพระกริ่งปวเรศสมใจ”
“สำหรับพระกริ่งปวเรศ ทำไมผมถึงกล้าเอาทุกอย่างแลกมา จากที่ได้ศึกษามานั้นพระกริ่งองค์นี้ เนื้อแตกเป็นตางูทั้งองค์ รอยตำหนิพิมพ์ทรงที่ได้เทียบกับองค์วัดบวรฯ คือ ใช่ พระกริ่งปวเรศองค์นี้ ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้นำไปเทียบกับองค์ที่วัดบวรนิเวศแล้ว โดยเอาบล็อกพระกริ่งปวเรศมาลองวางได้พอดี เพราะความลับพระกริ่งปวเรศ มีอยู่ว่า บัวหลังกับขอบจะไม่ตรง”
“ผมได้ศึกษาพระเครื่องในสายของ อ.ตรียัมปวาย ผ่านการชี้แนะจาก อ.พลายชุมพล จากการอ่านและดูจากของแท้ โดยเอาของแท้และของเก๊มาเปรียบเทียบกัน จดจำความละเอียดทุกอย่าง การดูพระต้องใจเย็นๆ ต้องรอบคอบในทุกด้านอย่าประมาท”
“ผมนำพระเครื่องสวมขึ้นคอก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพียงเพื่อเตือนสติตนเอง เมื่อแขวนแล้วเรายึดหลักคำสอนของท่านมาดำเนินชีวิต ทำแต่สิ่งดี คิดดี ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จในอาชีพ การห้อยพระเครื่องแล้วไม่มีธรรมะอยู่ในใจ มีแต่ความโลภ กิเลสเข้าครอบงำ ก็ไร้ประโยชน์” พี่ปาล์มกล่าวทิ้งท้าย