ตรัง -ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในจ.ตรัง และในพื้นที่ภาคใต้เร่งเปิดเกมส์รุกหวังดึงคะแนนเสียงเต็มที่ โดยว่าที่ผู้สมัครส่วนใหญ่เริ่มทยอยติดตั้งป้ายหาเสียง โดยส่วนใหญ่เริ่มจากนโยบายเด่นของพรรค ขณะที่พรรคภูมิใจไทยภาคใต้เปิดเกมรุกคุยเอกชนดึงข้อเสนอทำนโยบายหวังกวาดที่นั่งภาคใต้
เริ่มจากนายทวี สุระบาล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เริ่มให้เจ้าหน้าที่ติดตั้งป้ายหาเสียงของตัวเองกับพล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของพรรค ในเขตเลือกตั้งที่ 2 อ.ห้วยยอด ,อ.รัษฎา และอ.วังวิเศษ โดยเริ่มต้นด้วยการชูป้ายหาเสียง ชูนโยบายเด่นของพรรค คือ การประกาศพร้อมสานต่อบัตรประชารัฐ เพิ่มสวัสดิการผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากเดือนละ 200-300 บาท เป็นเดือนละ 700 บาท และประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยนายทวี กล่าวประกาศพร้อมลงสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ ที่ผ่านมาแม้ไม่ได้เป็นส.ส. เพราะลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ แต่ไม่ถึง ก็ยังมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้ตนเองได้ประสานของบประมาณต่างๆมาพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่ามีผลงานมากพอสมควร ในครั้งก็ตัดสินใจอยู่ต่อกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมี พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป หากประชาชนให้ความไว้วางใจ
ส่วนตัวชื่นชอบและเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประวิทย์ แม้อายุจะมากแล้ว แต่มากประสบการณ์ ไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคในการหาเสียง หรือการจะทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหากประชาชนไว้วางใจ นอกจากนั้นนโยบายเดิมๆที่พรรคพลังประชารัฐทำไว้สำเร็จประชาชนชื่นชอบในรัฐบาลชุดนี้ทุกโครงการ ก็จะยังคงเป็นผลงานของพรรคพลังประชารัฐต่อไป แต่บางนโยบายจะมีการเพิ่มเติมในส่วนของสวัสดิการมากขึ้น เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะเพิ่มเป็นคนละ 700 บาทต่อเดือน นอกจากนั้น พรรคเตรียมประกาศนโยบายใหญ่อีกหลายนโยบาย รวมทั้งนโยบายหาเสียงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับทั่วประเทศ ทั้ง อบต. , เทศบาล และอบจ ในการสนับสนุนงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปบริหารพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นนโยบายที่ดี ถูกใจพี่น้องในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกระดับ ทั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐเพิ่มมากขึ้นแน่นอน หลังลุงป้อมเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนตัวก็เชื่อมั่นว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจในการเข้าไปทำหน้าที่ต่อไป
นายสฤษฏ์พงศ์ เกี่ยวข้อง ส.ส. พรรคภูมิใจไทย จ.กระบี่ นำส.ส.พรรคภูมิใจไทย และว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้ง 15 เขต เข้าพบกับตัวแทนคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) นำโดย นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย , นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ในโอกาสเปิดการประชุมที่จ.ตรัง เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางการพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน เพื่อนำไปผลักดันและจัดทำเป็นนโยบายพรรคใช้ในการเสียงต่อไป ทั้งนี้ ภาคเอกชนได้เสนอให้ทางพรรคภูมิใจไทย ทั้งเรื่องการติดตามโครงการที่นำเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัญจรที่ จ.ภูเก็ต เมื่อปีที่ผ่านมา การยกระดับพัฒนาโครงการต่างๆ ให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรที่มีทั้งบนบก น้ำ อากาศ เรื่องระบบสาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน สนามบิน ,รถไฟ เชื่อมโยงทุกจังหวัดและใต้สุด , ถนนเลียบชายฝั่งอันดามันโครงการระบบขนส่งมวลชนจ.ภูเก็ต หรือโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบา ในที่นี้เรื่องเร่งด่วนที่จะให้ฝ่ายการเมืองช่วยออกแรงผลักดัน คือ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน เอ็กซ์โปวาระพิเศษ Specialised Expo ณ.จังหวัดภูเก็ต ภายใต้ชื่องาน EXPO 2028 Phuket Thailand โดยภาคเอกชนมองว่า กระทรวงต่างประเทศเดินนโยบายผิดพลาด โดยเฉพาะท่าทีกับการเมืองในประเทศเพื่อนบ้าน ห่วงพ่ายแพ้คู่แข่ง ซึ่งจะมีการพิจารณาตัดสินการเป็นเจ้าภาพในเดือนมิถุนายน 2566 นี้ ซึ่งหากไม่ได้เป็นจะทำให้ประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต และกลุ่มจังหวัดอันดามันเสียโอกาสในหลายด้าน
ด้านนายสฤษฏ์พงศ์ เกี่ยวข้อง ส.ส. พรรคภูมิใจไทย จ.กระบี่ บอกว่า กรอ. กับภูมิใจไทยคิดเหมือนกันว่าจะทำโครงสร้างพื้นฐานในอันดามันให้เป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศ โดยบอกว่าที่ผ่านมาภาคการเมือง ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับภาคเศรษฐกิจ หรือเอกชน มารับฟัง เพื่อนำไปใส่เป็นนโยบาย เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ เพราะทั้งหมดเป็นฐานข้อมูลจาก กรอ. ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึก เชิงประจักษ์ที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว ส่วนเรื่องด่วนที่จะต้องเร่งผลักดันคือ งานเอ็กซ์โป , ระบบสาธารณสุขให้เกิดความปลอดภัย การพัฒนาการท่องเที่ยว และการโครงสร้างพื้นฐานที่ยังค้างคา โดยมีสโลแกนหาเสียง “ ภูมิใจไทย ภูมิใจอันดามัน” หวังแลนไลด์ในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมระบุที่ผ่านมา ภาค
ใต้อยู่กับพรรคการเมืองมาตลอด 30 ปี หวังว่าครั้งนี้จะเลือกภูมิใจไทยที่จะเข้ามาพลิกการพัฒนาในพื้นที่
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน กล่าวว่า ถือเป็นมิติใหม่ของการเมืองที่พรรคการเมืองเริ่มเข้าหา เพื่อขอความคิดเห็นจากภาคประชาชน และภาคเอกชน เพื่อที่จะเอาไปทำเป็นนโยบายและแผนงาน ซึ่งโครงการต่างๆหอการค้ากลุ่มอันดามันใช้ในเวทีการประชุม กรอ.ด้วยแ ละบางเรื่องเป็นเรื่องของแผนระยะยาว ซึ่งยังไม่ได้บรรลุผลก็ได้นำเสนอให้พรรคการเมืองรับไป เพื่อจะนำไปบรรจุในแผนงานหรือไปกำหนดกลยุทธ์ ทั้งเรื่องระบบสาธารณสุข ซึ่งกลุ่มอันดามันมีประชากรมากกว่า 2,500,000 คน มีนักท่องเที่ยวประมาณ 10,000,000 คน ทำให้เกิดความแออัดในสถานบริการด้านสาธารณสุข ก็อยากให้พรรคการเมืองทุกพรรคได้ปรับจูนนโยบายในเรื่องของการปรับปรุงด้านสาธารณสุขในพื้นที่อันดามันให้ทันสมัย ทัดเทียมสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนมากขึ้น , เรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งที่เป็นเมกกะโปรเจค เรื่องการขอขยายช่องทางจราจร จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4ช่องจราจร , การเพิ่มขนส่งมวลชนแบบรางเบาในพื้นที่ท่องเที่ยวที่หนาแน่นในจังหวัดภูเก็ต และกระบี่ รวมทั้งการสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างอันดามันกับอ่าวไทย และเรื่องโครงการบริหารจัดการเรื่องน้ำของภาคใต้ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะพรรคภูมิใจไทยเท่านั้นหากมีพรรคการเมืองไหนเสนอตัวเข้ามาทางภาคเอกชนก็พร้อมจะนำเสนอให้พรรคการเมือง นำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศ เพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืน และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ส่วนความคาดหวัง ส่วนตัวมองว่าเป็นประโยชน์ของประเทศ และพรรคการเมือง ไม่ใช่เป็นประโยชน์ของตัวเองแ ละพรรคการเมืองก็รับปากว่าจะนำไปใส่ในแผนงานและโครงงานนโยบายของพรรค
ทางด้านนายพิทักษ์พงษ์ ชัยคช ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตรัง กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองต่างๆมารับเรื่องราวของภาคเอกชนกลุ่มอันดามัน เพื่อจะนำไปพัฒนาต่อยอด ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าทางกลุ่มจังหวัดก็เสนอผ่านทางระบบขั้นตอนมาหมดแล้ว และหากพรรคการเมืองสามารถนำไปทำเป็นแผน และลัดขั้นตอนได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วก็เอานโยบายหรือเอาแผนของจังหวัดต่างๆไปอยู่ในแผนของพรรคการเมืองต่างๆ ก็น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้นและดีขึ้น เพราะทุกโครงการผ่านจังหวัด ผ่านกรอ.จังหวัด ผ่านกรอ.กลุ่ม จังหวัด จึงจะเสนอของบประมาณ แต่ถ้าพรรคการเมืองมาช่วยอีกแรงหนึ่ง เขาสามารถไปเชื่อมกับกระทรวงต่างๆ ได้ เพราะบางโครงการมีรัฐมนตรีอยู่ในมือ แต่ในฐานะประชาชน ก็คาดหวังแบบ 50: 50 เพราะถือว่าช่วงนี้ก็เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่ว่าถ้าเป็นไปได้หรือเป็นเรื่องที่เอาไปทำจริงก็เป็นเรื่องที่ดี
สำหรับ ภาคใต้กลุ่มอันดามัน มีประชากรมากกว่า 2,500,000 คน มีประชากรแฝงอีกจำนวนมาก มีนักท่องเที่ยวประมาณ 10,000,000 คน ขณะที่รายได้ของภาคใต้รวม 8 แสนล้านบาท โดยเป็นของจังหวัดกลุ่มอันดามัน จำนวน 6 แสนล้านบาท ที่เหลืออีก 2 แสนล้านบาทเป็นของจังหวัดอื่นๆกระจายไป