คืบหน้า รถซีอาร์วีชน จยย.พ่อครัวศาลเจ้า กับเพื่อน กระเด็นบนถนนที่ตรัง ก่อนถูกเก๋งขับสวนชนซ้ำลากร่างใต้ท้องดับคาที่ ส่วนเพื่อนเจ็บ ขณะที่ ซีอาร์วีคันต้นเหตุเผ่นหลบหนี ตร.เผยการสอบสวนคืบไป 90%
กรณีเกิดอุบัติเหตุ รถอเนกประสงค์หรือเอสยูวี พุ่งชนท้ายรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีเขียว ทะเบียน กรก 902 ตรัง ทำให้คนขับคือนายสุเทพ ฝุกล่อย หรือโกอิ้น อายุ 59 ปี พ่อครัวโรงทานศาลเจ้าพ่อหมื่นราม พุ่งกระเด็นมานอนกลางถนน ส่วนคนซ้อนท้ายคือนายอรุณ ศรีสุข หรือลุฟ อายุ 59 ปี หัวหน้าพ่อครัวศาลเจ้าพ่อหมื่นราม ได้รับบาดเจ็บ ทำให้รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กธ 6249 ตรัง ที่ขับสวนมาอีกเลนพุ่งชนร่างนายสุเทพเสียชีวิต ส่วนคันที่พุ่งชนคันแรกได้ขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา บนถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้รับกล้องวงจรปิดจากพลเมืองดีพบว่า กล้องตัวที่ 1 เวลา 02.20 น. สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี พุ่งชนท้ายรถ จยย.คันดังกล่าวอย่างจัง และเก๋งอีกคันลากร่างมาจอดแน่นิ่ง ส่วนกล้องวงจรปิดตัวที่ 2 บันทึกเห็นภาพหลังจากที่รถรุ่นซีอาร์วีพุ่งชนแล้วได้ขับมาจอดริมถนน ร่างของนายสุเทพ กลิ้งอยู่บนถนนโดยที่ยังไม่เสียชีวิต มือและร่างกายยังขยับ ก่อนที่ในเวลา 02.21 น. รถเก๋งวีออสที่ขับสวนมาพุ่งชนร่างของนายสุเทพ ที่นอนอยู่กลางถนนติดใต้ท้องรถลากไปไกลกว่า 50 เมตร จังหวะนั้นทำให้คนขับรถซีอาร์วี เป็นชายอายุประมาณ 40-45 ปี แต่งกายดูดี เดินลงมาจากรถ และพูดคุยกับนายอรุณซึ่งเป็นคนซ้อนท้าย ก่อนจะขับหลบหนีหายไป
นายอรุณ ผู้บาดเจ็บที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุ กล่าวว่า นั่งซ้อนท้ายมากับนายสุเทพกำลังจะเลี้ยวเข้าไปทำอาหารให้กับทางศาลเจ้าพ่อหมื่นราม โดยที่คนขับตีไฟเลี้ยวมาจนถึงกลางถนนเลี้ยว ปรากฏว่ารถซีอาร์วีขับพุ่งตามหลังมา ตนจึงยกมือโบกให้หยุดหรือหลบหลีกแล้ว พร้อมกับพูดว่าอย่าๆ ทันใดนั้นรถก็ได้เข้าพุ่งชนทันที ทำให้ตนกลิ้งไปตามถนน เมื่อตั้งสติได้ก็ลุกขึ้นหานายสุเทพ หรือโกอิ้น ปรากฏว่ารถอีกคันได้ชนซ้ำลากร่างของนายสุเทพติดใต้ท้องไปแล้ว ก่อนจะบังเอิญเดินมาพบกับรถซีอาร์วีซึ่งเป็นคนที่พุ่งชนจอดอยู่ ทำให้คนขับสวมแว่นสายตา ลงมาจากรถคล้ายคนเมาสุรา รวมทั้งได้กลิ่นสุราด้วย มาถามตนว่าเป็นยังไงบ้าง ตนจึงบอกกับคนขับว่า “คุณอยู่นี้ก่อน เดี๋ยวผมไปหาเพื่อนก่อน” ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเพื่อนตนติดอยู่ใต้ท้องรถเก๋งอีกคัน ระยะเวลาประมาณ 2-3 นาทีชายคนขับก็ได้ขับรถหลบหนีไปทันที ซึ่งเป็นคันเดียวกับที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดที่นักข่าวนำมาให้ดู
ด้าน นายสราวุฒิ อายุ 35 ปี และนายเทพอรุณ ฝุกล่อย อายุ 31 ปี ลูกชายของนายสุเทพ หรือโกอิ้น กล่าวว่า อยากให้ทางตำรวจจับตัวคนชนคันแรกที่หลบหนีมารับผิด และอยากรู้ว่าทำไมถึงไม่ลงมาช่วยเหลือพ่อผม จนทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเช่นนี้ หากคุณลงมาช่วยพ่อผมก็คงอาจจะไม่เสียชีวิต หากเป็นครอบครัวของคุณจะรู้สึกยังไง ตอนนี้ก็ยังเสียใจทุกคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้ เพราะพ่อคือเสาหลักของครอบครัว วันนี้ตนก็ได้ไปพบพนักงานสอบสวน และรองผู้กำกับการสอบสวน โดยบอกว่าตอนนี้มีข่าวดีประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ในเรื่องของคนชนที่หลบหนี เพราะอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นคู่กรณีรถเก๋งคันที่ชนพ่อซ้ำจนเสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ตอนพ่อนอนอยู่บนถนนคิดว่าเป็นกองขยะ โดยกองขยะกองนั้นเป็นคนทั้งคน ที่คุณชนและเสียชีวิต ซึ่งเป็นไปได้ยากเพราะมีแสงสว่าง และปกติคนขับรถหากเห็นอะไรก็จะต้องหลบหลีก เพราะไม่ใช่ระยะกระชั้นชิด ตอนนี้ก็ยังให้เกียรติการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คิดว่าคงจะไม่นิ่งเฉย เพราะพ่อเสียชีวิตใจกลางเมือง และเป็นข่าวเป็นที่รับรู้ของสังคมขนาดนี้.







