เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 19 ก.พ.65 ร.ต.อ.พิรุณชัย คันธานนท์ รอง สว.สอบสวน สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตและบาดเจ็บ ภายในบ้านเลขที่ 106 หมู่ 8 บ้านลำขนุน ต.นาชุมเห็ด หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว และกำลังชุดสืบสวน ตร.พิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง หน่วยกู้ชีพ รพ.ย่านตาขาว และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง รุดไปตรวจสอบ

ถึงที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตรงประตูด้านหลังบ้านพบร่างของนายวีระพงษ์ พรหมราช หรือดอย อายุ 27 ปี ถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 11 มม. เข้าที่ใต้คางกระสุนทะลุศีรษะ 1 นัด นอนหายใจรวยริน มือด้านขวายังกำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวซึ่งมีสภาพเก่าและนิ้วยังสอดอยู่ในโกร่งไกปืน ใกล้กันพบปลอกกระสุนตกอยู่ 1 ปลอก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ทำการพยาบาลเบื้องต้นรีบนำตัวส่งไปยัง รพ.นาโยง แต่เนื่องจากการอาการหนักแพทย์ได้ส่งตัวต่อมายัง รพ.ตรัง เพื่อช่วยเหลือยื้อชีวิตอย่างเร่งด่วน
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในบ้านพบข้าวของตกกระจายเกลื่อน บนเก้าอี้ไม้พบร่างของ น.ส.สุนันทา แสงโพธิ์ หรือ เน อายุ 28 ปี ชาว จ.เลย ซึ่งเป็นแฟนสาว สวมเสื้อสายเดี๋ยวสีดำลายลูกไม้ นุ่งกางเกงชั้นในสีครีม นอนเสียชีวิตจมกองเลือดหลังพิงผนังบ้านในสภาพหงายหน้า ตรวจสอบพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระบอกเดียวกันเข้าที่ กกหูขวาทะลุศีรษะ ไหปลาร้าซ้ายกระสุนฝังในบริเวณแผ่นหลังใต้ต้นคอ ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนอีก 2 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม นางสายเพ็ญ พรหมราช อายุ 59 ปี แม่นายวีระพงษ์ เล่าว่า ลูกชายคบหากับแฟนสาวที่เสียชีวิตได้ประมาณ 2 ปีแล้ว เนื่องจากฝ่ายหญิงมาทำงานในตัวเมืองตรัง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน จนกระทั่งฝ่ายหญิงได้ไปทำงานที่ประเทศกานาในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างนั้นตนสังเกตลูกชายมีอาการเครียดอย่างมากถึงขั้นต้องกินยาคลายเครียด แต่ตนไม่รู้ว่าเครียดเรื่องอะไรหรือมีปัญหาอะไรกับแฟนสาวจนกระทั่งฝ่ายหญิงได้เดินทางกลับมาอยู่กับลูกชายได้ประมาณ 3 วัน กระทั่งเกิดเหตุสลดใจดังกล่าว
นางสายเพ็ญ เล่าอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.เย็นวันที่ 18 ก.พ.65 ลูกชายได้บอกตนว่าให้ไปอยู่บ้านญาติก่อน ลูกชายจะขออยู่และเคลียร์ปัญหากับคุยกับแฟนสาวที่บ้านกันเพียง 2 คน โดยล็อกกุญแจบ้าน จนทำให้พี่สาวที่อยู่บ้านติดกันได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงหลายนาที แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งหรือห้ามปราม จนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 3 นัด จึงวิ่งไปดูปรากฏว่าทั้งคู่นอนจมกองเลือดแล้ว ที่ผ่านมาทราบว่าฝ่ายหญิงเป็นคนที่เอาแต่ใจ หากอยากได้อะไรก็ต้องให้ได้ในทันทีทันใด แต่ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าทั้งคู่มีปัญหาอะไรกัน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยพูดคุยหรือปรึกษาอะไรเลย ส่วนอดีตลูกชายเคยทำงานขับรถส่งของบริษัทชื่อดัง แต่ได้ลาออกมายึดอาชีพเผาถ่านอยู่ที่บ้าน

ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ทั้งคู่เคลียร์ปัญหาคาใจกันไม่ได้ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องหึงหวง จนทำให้ฝ่ายชายก่อเหตุยิงแฟนสาวในขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ จนแฟนสาวเสียชีวิตคาที่ และฝ่ายชายได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองจนบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อไป.