สนามข่าว 7 สี – เกิดเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จนชายอายุ 69 ปี คนขี่รถจักยานยนต์กระเด็นออกนอกรถได้รับบาดเจ็บถึงขั้นขาขาด แต่คนขับรถกระบะไม่แม้แต่ลงมาดู ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยกันตัง 10 เขตเทศบาลนครตรัง ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยเป็นถนนแคบ พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดอยู่ข้างทาง สภาพหน้ารถพังได้รับความเสียหาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อคือ นายรุณ ท่อแก้ว อายุ 69 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขวาขาดจนถึงหัวเข่า กระดูกแตกแหลกละเอียด มีบาดแผลที่หน้าท้อง ส่วนรถกระบะหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป พบเพียงเศษกันชน ไฟหน้าแตกละเอียดกระจัดกระจายบนถนน
นายสิทธิชัย ท่อแก้ว อายุ 47 ปี ลูกชายผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อของตนได้ออกไปซื้อลูกชิ้นให้หลานสาว ส่วนตนเองก็ออกไปซื้อของ พอกลับมาขณะเข้าซอย ตอนนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นพ่อของตัวเองนอนอยู่พื้น สภาพขาขวาขาดและร้องด้วยความเจ็บปวด ส่วนรถกระบะคันก่อเหตุขณะนั้นก็ไม่เห็นแล้ว ซึ่งล่าสุดอาการของพ่อสาหัสมาก
จากการสอบสวนพยาน เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายรุณ ได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเข้ามาในซอย และอยู่เลนซ้ายตามปกติ ต่อมามีรถกระบะไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน ขับออกมาจากซอยด้วยความเร็วสูง จนมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งเล็กน้อย รถกระบะได้กินเลนเข้ามาอีกฝั่ง เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาพอดี จึงชนเข้าไปเต็ม ๆ จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนรถกระบะได้ขับหลบหนีออกปากซอย และเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้าเมือง
ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่ ต่างร้องเรียนว่าต้องการให้เจ้าหน้าที่มาทำลูกระนาด เพราะมีการขับรถใช้ความเร็วอยู่บ่อยครั้ง สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้าน เพราะส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย มีเด็กและคนชราอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อเร่งติดตามคนขับรถกระบะมาดำเนินคดีตามกฎหมาย